คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายความทำสัญญาจะถอนฟ้องคดีกับอีกฝ่ายหนึ่ง ภายหลังลูกความไม่ยอมให้ถอนฟ้องดังนี้จึงได้ขอคืนเงินที่ได้รับไป รูปคดีดังนี้เป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ใช่เรื่องฉ้อโกงทางอาชญา ฎีกาอุทธรณ์ คดีที่ฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมายนั้นถ้ากล่าวอ้างข้อเท็จจริงนอกจากที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาข้อเท็จจริงนั้น

ย่อยาว

ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นทนายให้นายเป กับพวก ฟ้องนายทาบหาว่าเบิกความเท็จทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าคน นายทาบได้ทำสัญญากับจำเลยขอให้ค่าทำขวัญ ๑๕๐ บาทแล้ว จำเลยจะจัดการถอนฟ้อง นายทาบได้ให้เงินไปแล้ว ๕๐ บาท ภายหลังนายเปกับพวกไม่ยอมถอนจำเลยจึงนำไปเงินไปคืนนายทาบ ๆ ไม่ยอมรับเงิน จะให้จำเลยถอนฟ้องให้ได้ จำเลยจึงนำเงินไปมอบไว้ยังกรมการอำเภอ
ศาลล่างทั้ง ๒ วินิจฉัยว่า รูปคดีเป็นผิดสัญญา จำเลยหามีเจตนาฉ้อโกงไม่ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาว่า
๑. จำเลยพูดขู่นายทาบให้ตกใจกลัวเพื่อให้เงินจำเลย
๒. จำเลยไม่ใช่ตัวความแต่หลอกว่ามีอำนาจถอนฟ้องได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาข้อ ๑. กล่าวนอกข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยมา ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาให้ ส่วนข้อ ๒ นั้น นายทาบเองก็รู้ว่าจำเลยเป็นแต่ทนายไม่ใช่ตัวความจะหลอกอย่างไร แต่จะอย่างไรก็ตกไปตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจจริต จึงพิพากษายืนตาม

Share