คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีเรื่องยักยอกเก็บของตกนั้นเมื่อโจทก์นำพะยานมาสืบแสดงได้ว่าของนั้นหายไปเองแล้วไปตกอยู่ที่จำเลยและจำเลยขายไปโดยทุจจริตแล้วเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบหักล้าง เมื่อจำเลยนำสืบหักล้างมิได้หรือไม่นำพะยานมาสืบในข้อนี้เสียเลยแล้วจำเลยก็ต้องมีความผิดฐานยักยอกเก็บของตก

ย่อยาว

ได้ความว่าไม้ขอนสักของรัฐบาลซึ่งอยู่ในความควบคุมของ อ.หลุดลอยน้ำหายไป ๑ ต้น ต่อมาจึงจับไม้ได้ที่ ว.ปรากฎว่าจำเลยในคดีนี้เป็นผู้เอาไปขายให้ ว. โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกเก็บของตก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าไม้รายนี้จำเลยเป็นผู้เก็บได้เอง ข้อสันนิษฐานจึงอาจเป็นได้หลายทาง
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์มีพะยานหลายปากฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้นำไม้นี้ไปขายให้ ว.จริง ข้อที่ว่าจำเลยจะเป็นผู้เก็บไม้นี้ได้เอง หรือได้มาจากทางอื่นอย่างไรนั้นไม่สำคัญ เมื่อโจทก์นำสืบว่าไม้ของหลวงได้ขาดจากแพหายไป แล้วไปได้ไม้ที่ ว.โดยจำเลยเป็นผู้ขายดังนี้ ก็ต้องฟังว่าจำเลยเป็นผู้เก็บไม้รายนี้ได้ เพราะจำเลยไม่มีพะยานแสดงว่าจำเลยได้ไม้ต้นนี้มาโดยอาการอย่างไร จึงพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๓๑๘ แห่งกฎหมายอาญา

Share