คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้นไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม มาตรา 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกระทง โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในกระทงไม่ต่ออายุศาลอุทธรณ์พิพากษายกโจทก์และจำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกระทงความผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว เคยมีใบสำคัญประจำตัวจำเลยละเลยไม่ต่ออายุในสำคัญเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2497 จำเลยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวติดตัวไปเพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษ

จำเลยรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญ 1 ปี ปรับ 50 บาท และฐานแสดงใบสำคัญให้เจ้าพนักงานดูไม่ได้ ปรับ 50 บาทรวมลงโทษเมื่อลดกึ่งหนึ่งแล้วเหลือ 50 บาท

โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญเป็นรายปี 3 ปี

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยขาดต่ออายุ 2 ปีต้องปรับเป็นรายปีพิพากษาแก้ให้ปรับปีละ 250 บาท รวมกับฐานแสดงใบสำคัญให้เจ้าพนักงานดูไม่ได้ปรับ 550 บาท ลดกึ่งหนึ่งเหลือ 275 บาท แต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าจำเลยไม่ผิดทั้งสองกระทง ควรยกฟ้อง

โจทก์และจำเลยฎีกา โจทก์ขอให้ลงโทษรายปี 3 ปีจำเลยขอให้ยกฟ้องตามความเห็นแย้ง

ศาลฎีกาเห็นว่าลงโทษจำเลยฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญได้เพียงปีเดียวนอกนั้นขาดอายุความแล้ว (อ้างฎีกาที่ 942/2498) ส่วนปัญหาเรื่องจำเลยไม่มีใบสำคัญติดตัวไปตาม พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 มาตรา 17 นั้น เห็นว่าตามมาตรานี้มุ่งหมายเฉพาะคนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัวอันถูกต้องเท่านั้นจะต้องมีใบสำคัญติดตัวไปด้วย ไม่บังคับถึงผู้ที่ไม่ได้ต่ออายุใบสำคัญอันเป็นผิดอยู่แล้วอีกด้วย การที่ศาลลงโทษจำเลยโดยไม่ถูกต้อง แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์มาก็ดี ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ถูกต้องได้ พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลย 250 บาทลดกึ่งหนึ่งเหลือ 125 บาท ข้อหาอื่นให้ยกเสีย

Share