คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นตัดสินให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินตามโจทก์ฟ้อง โดยวินิจฉัยคดีไว้อย่างหนึ่ง ในชั้นศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีอีกอย่างหนึ่ง แต่คงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาคัดค้านข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ซึ่งข้อเหล่านี้ศาลอุทธรณ์หาได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยแพ้ไม่เมื่อโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ด้วยแล้ว ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินซึ่งโจทก์อ้างว่าได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากนางดี นางพร้อย จำเลยปลูกเรือนอาศัยอยู่ไม่ยอมออก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยโดยฟังข้อเท็จจริงว่าเดิมที่รายพิพาทนางอยู่ภริยานายขวัญจำเลยได้รับมฤดกมา ต่อมานางอยู่ ได้โอนขายที่ให้นางดี นางพร้อม ๆ โอนขายให้โจทก์อีกต่อหนึ่ง การที่นายขวัญจำเลยปล่อยให้นางอยู่มีชื่อในโฉนดแต่ผู้เดียวเป็นปริยายได้ว่านายขวัญจำเลยยินยอมให้นางอยู่ทำนิติกรมเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่ดินแปลงนี้นางอยู่ได้รับมฤดกแล้วขายให้นางดี นางพร้อม ๆ ขายให้โจทก์ได้แก้ทะเบียนโอนกันต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เป็นทอด ๆ มาไม่ปรากฎการทุจจริตประการใด โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิตามกฎหมายโจทก์หาได้รับซื้อจากนางอยู่ภริยานายขวัญจำเลยไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาคัดค้านข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้นว่าศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยินยอมโดยปริยาย และว่าการโอนรายนี้เป็นโมฆียะกรรมมิไดมีผู้ใดบอกล้างนั้นไม่ถูกต้อง
ศาลฎีกาตัดสินว่า จำเลยยกได้ฎีกาคัดค้านข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ จำเลยกลับไปวินิจฉัยข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ซึ่งข้อเหล่านี้ศาลอุทธรณ์หาได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยแพ้คดีไม่อนึ่งเมื่อโจทก์มิได้ฎีกาข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แล้ว ศาลฎีกาก็ไม่มีอะไรจะวินิจฉัย จึงพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย

Share