แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปเดินสายไฟฟ้าในวัดแห่งหนึ่ง จำเลยที่ 1 เดินสายไฟฟ้าเสร็จแล้วไม่กลับทันที ได้ขับรถออกนอกเส้นทางไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา แล้วจึงขับรถกลับระหว่างทางขับรถประมาทชนร้านค้าของ บ. ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงของโจทก์เสียหายด้วยดังนี้ยังถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 ได้กระทำการในทางการที่จ้างขับรถยนต์โดยประมาทชนร้านนายบรรจงซึ่งโจทก์ตั้งเครื่องเล่นตู้เพลงไว้ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงและแผ่นเสียงของโจทก์เสียหายด้วย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 40,000 บาท
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 มิได้เป็นลูกจ้างของตนและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้าง ขอให้ยกฟ้อง ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและขับรถในทางการที่จ้างโดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย 32,400 บาท แก่โจทก์
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายเพียง 30,000 บาท
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมายที่ว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้างหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ขับรถไปเดินสายไฟฟ้าในวัดนกออกก็เนื่องจากได้รับคำสั่งของจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างมอบหมายให้จำเลยที่ 1 เอารถไป อันเป็นการแสดงอยู่ว่าจำเลยที่ 2 ไว้ใจในการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ฉะนั้น แม้จำเลยที่ 1 จะได้เปลี่ยนเส้นทางขากลับไปแวะดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา ต่อมาเกิดเหตุขับรถไปชนร้านค้านายบรรจง ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหายไปด้วย ก็ถือได้ว่ายังเป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
พิพากษายืน