คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการได้มาโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2.00 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 27(พ.ศ.2516) ข้อ 5(1) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองครอบครองที่ดินโฉนดที่ 6734 จนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และศาลสั่งแสดงว่าโจทก์ทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวแล้ว โจทก์ทั้งสองได้ไปขอจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองแทนเจ้าของเดิม จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนร้อยละ 2 บาทจากราคาที่ดินการกระทำของจำเลยขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 103 และกฎกระทรวงฉบับที่ 10 (พ.ศ.2497) ข้อ 5(5) ขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ทั้งสองในโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแทนเจ้าของเดิม โดยให้รับเงินจากโจทก์เป็นค่าธรรมเนียมจำนวน 15บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2497) ข้อ 5 (5)

จำเลยทั้งสามให้การว่า การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมดังฟ้องโจทก์ถือว่าเป็นการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทมีทุนทรัพย์ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2516) ข้อ 5(1) จะต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 2.00 บาทโจทก์ไม่ยอมเสียตามที่เรียกเก็บ จึงไม่อาจจดทะเบียนให้ได้

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการได้มาโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้นมีทุนทรัพย์เพราะเป็นการได้ทรัพย์สินมา ฉะนั้น โจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนดังกล่าวในอัตราร้อยละ 2.00 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 27(พ.ศ.2516) ข้อ 5(1) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 เมื่อโจทก์ไม่ยอมเสียก็ไม่อาจบังคับให้จำเลยจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ได้

พิพากษายืน

Share