แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรานั้น เมื่ออวัยวะเพศของจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้ว แม้จำเลยไม่สำเร็จความใคร่ก็เป็นความผิดสำเร็จ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276,362, 365, 90 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 3 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 365พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525มาตรา 3 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 4 ปีจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาว่าจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหายเป็นความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่นั้น ผู้เสียหายเบิกความว่าเข้าใจว่าเป็นสามีจึงยอมให้กระทำชำเรา แต่รู้สึกผิดสังเกตเพราะทำไมรีบชำเราจึงเอามือลูบหน้าและร่างกายก็รู้ว่าไม่ใช่สามี ผู้เสียหายตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่าความจริงจำเลยชักอวัยวะเพศเข้าออกได้เพียงครั้งเดียว พยานเห็นผิดสังเกตเพราะรีบทำจึงเอามือคลำดู ผู้เสียหายแจ้งความนายอินทร์กำนันตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1 ว่า กระทำชำเรายังไม่สำเร็จและบอกนายคำดีสามีว่าจำเลยกระทำชำเราไม่สำเร็จศาลฎีกาเห็นว่าที่ชำเราไม่สำเร็จนั้นเป็นความเข้าใจของชาวบ้านซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาว่าไม่สำเร็จความใคร่เพราะไม่มีการหลั่งน้ำอสุจินั่นเอง ตามคำเบิกความของผู้เสียหายดังกล่าวประกอบพฤติการณ์การกระทำของจำเลยแล้ว เชื่อว่าของลับของจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้ว จึงเป็นความผิดตามฟ้อง ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น