คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากสำหรับใช้ปิดสับปะรดกระป๋อง จำเลยได้ส่งมอบฉลากให้โจทก์รับไปแล้ว แต่โจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างพิมพ์ฉลากให้แก่จำเลย จำเลยจึงได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชำระเงินค่าจ้างพิมพ์ฉลาก โจทก์ให้การต่อสู้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่างเป็นการผิดสัญญา และโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหาย ฐานผิดสัญญาพิมพ์ฉลากไม่เหมือนตัวอย่างเป็นคดีนี้ มูลกรณีที่โจทก์ถูกจำเลยฟ้อง จึงเป็นมูลคดีเดียวกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ คดีทั้งสองสำนวนศาลพิจารณาพิพากษารวมกันเมื่อคดีแรกศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้พิมพ์ฉลากถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์ มิได้ผิดสัญญาคดีถึงที่สุดแล้ว ผลแห่งคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะฎีกาในคดีนี้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่าง เป็นการผิดสัญญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยให้พิมพ์ฉลากซึ่งใช้ปิดสับปะรดกระป๋องรวม ๒ ครั้ง ตามตัวอย่างที่บริษัทลูกค้าของโจทก์ต้องการ จำเลยผิดนัดส่งฉลากล่าช้า และผิดสัญญาพิมพ์ฉลากไม่เหมือนตัวอย่างในส่วนที่เป็นสารสำคัญ ต่อมานายหน้าและตัวแทนของลูกค้าต่างประเทศได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าฉลากปิดสับปะรดนั้นผิดไม่ตรงตามตัวอย่างที่ต้องการและเรียกร้องปรับค่าเสียหายจากโจทก์ ความเสียหายที่โจทก์ได้รับจากการกระทำของจำเลยโดยตรงคือค่าแกะฉลากเก่าออก ขัดเงาและปิดฉลากใหม่เป็นต้น รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น ๑๐๗,๒๑๖.๔๒ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาใด ๆ ต่อโจทก์ เมื่อส่งมอบโจทก์ก็รับฉลากไว้โดยไม่อิดเอื้อนหรือโต้แย้งความไม่ถูกต้องใด ๆ มูลคดีนี้จำเลยได้ฟ้องเรียกค่าจ้างพิมพ์ฉลากจากโจทก์ก่อนตามคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑ และในคดีดังกล่าวโจทก์ให้การว่าโจทก์ไม่เคยว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากเลยพร้อมกับฟ้องแย้งในคำให้การด้วยแต่ศาลสั่งไม่รับคำฟ้องแย้งเนื่องจากโจทก์ปฏิเสธว่าไม่เคยว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากต่อมาโจทก์จึงได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้พร้อมกับขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของโจทก์โดยยอมรับว่าได้ว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากจริง โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาคดีนี้เข้ากับคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑ แล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์คดีนี้และให้โจทก์ชำระค่าพิมพ์ฉลากแก่จำเลยตามที่จำเลยได้ฟ้องโจทก์ในสำนวนคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑
โจทก์อุทธรณ์ทั้งสองสำนวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาทั้งสองสำนวน แต่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในสำนวนคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑ เพราะเป็นฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงคงสั่งรับฎีกาเฉพาะในสำนวนคดีนี้ สำนวนคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑ จึงถึงที่สุด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากสำหรับใช้ปิดสับปะรดกระป๋องรวม ๒ ครั้ง เป็นค่าจ้าง ๓๒,๔๐๐ บาท จำเลยได้ส่งมอบฉลากดังกล่าวให้โจทก์รับไปแล้วทั้งสองครั้งแต่โจทก์ไม่ชำระค่าจ้างพิมพ์ฉลากให้จำเลยจำเลยจึงได้ฟ้องโจทก์ตามสำนวนคดีหมายเลขดำที่ ๑๒๖๑๒/๒๕๒๑ ของศาลแพ่งขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ชำระเงินค่าจ้างพิมพ์ฉลากดังกล่าวแก่จำเลย โจทก์ซึ่งเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวให้การต่อสู้ในทำนองเดียวกับที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ว่า จำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่างที่ตกลงกันไว้เป็นการผิดสัญญา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยได้พิมพ์ฉลากถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์ทั้งสองครั้ง จำเลยไม่ผิดสัญญาและพิพากษาต้องกันให้โจทก์ชำระค่าจ้างพิมพ์ฉลากดังกล่าวแต่จำเลย คดีถึงที่สุดดังกล่าวแล้วข้างต้น เห็นว่ามูลกรณีที่โจทก์ถูกจำเลยฟ้องในคดีดังกล่าวเป็นมูลคดีเดียวกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ เมื่อเป็นมูลคดีเดียวกันและศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าจำเลยได้พิมพ์ฉลากถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์ทั้งสองครั้งจำเลยไม่ผิดสัญญา โจทก์จึงต้องผูกพันในผลแห่งคำพิพากษานั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ การที่โจทก์ฎีกาในคดีนี้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่างที่ตกลงกันไว้เป็นการผิดสัญญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจึงรับฟังไม่ได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share