คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง แต่มีอายุ 15 ปี ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 75 แล้วพิพากษา 6 ปี ลดตามมาตรา 78 อีก 1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่สมควรพิพากษาลงโทษจำคุกพิพากษาแก้เป็นว่าให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรม ณ สถานเยาวชนฯจนกว่าจะมีอายุ 18 ปี ตามมาตรา 75, 74 (5) ดังนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๘๓ และคืนของกลางแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๒ จำเลยที่ ๑ อายุ ๑๕ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๕ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๖ ปีคำรับสารภาพของจำเลยที่ ๑ ยังเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑มีกำหนด ๔ ปี ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๑๒ ปี ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ที่ ๓ คนละ ๖ ปี ของกลางเจ้าทรัพย์รับคืนไปแล้ว ให้ยกคำขอส่วนนี้
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ส่งตัวจำเลยที่ ๑ ไปฝึกอบรมณ สถานเยาวชนบ้านห้วยโป่ง จังหวัดระยอง จนกว่าจำเลยที่ ๑ จะมีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๕ ประกอบด้วยมาตรา ๗๔(๕) นอกจากที่แก้ให้ยืมตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ และพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share