คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีโดยกล่าวอ้างว่า โจทก์ยื่นคำขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้คัดค้านและขัดขวางการรังวัด แต่เมื่อข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าโจทก์ได้ขอยกเลิกการรังวัดที่ดิน โดยให้เหตุผล ในบันทึกถ้อยคำของเจ้าพนักงานที่ดินว่า โจทก์กับจำเลยสามารถตกลงแนวเขตกันได้แล้วโดยไม่ติดใจสงสัยค้าน แนวเขตด้านที่ติดกัน ดังนั้น ข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ย่อมหมดไป โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่คัดค้านหรือขัดขวางการรังวัดสอบเขตที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๔๘๖ ของโจทก์ ให้จำเลยทั้งสี่รับรองเขตที่ดินในการรังวัดให้โจทก์ ถ้าจำเลยทั้งสี่ไม่ยินยอมให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสี่
จำเลยทั้งสี่ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน แต่ให้คืนค่าขึ้นศาลทั้งสองศาลที่โจทก์เสียเกินมา ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ติดกับที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ โจทก์ยื่นคำขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดินไปทำการรังวัด ๒ ครั้ง คือวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ และวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๓๗ แต่ฝ่ายโจทก์และจำเลยทั้งสี่ไม่สามารถตกลงแนวเขตที่ดินกันได้ จึงเลื่อนการรังวัดไป ต่อมาวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๗ อันเป็นวันกำหนดทำการรังวัด โจทก์ขอยกเลิกการรังวัด การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยกล่าวอ้างว่า โจทก์ยื่นคำขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ จำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้คัดค้านและขัดขวางการรังวัดที่ดินของโจทก์ แต่เมื่อข้อเท็จจริงกลับได้ความจากโจทก์เองว่า โจทก์ได้ขอยกเลิกการรังวัดที่ดินของโจทก์เสียแล้ว โดยให้เหตุผลในบันทึกถ้อยคำว่า โจทก์กับจำเลยทั้งสี่สามารถตกลงแนวเขตกันได้แล้วโดยไม่ติดใจสงสัยค้านแนวเขตด้านที่ติดกันแต่อย่างใด ดังนั้น ข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๕ ย่อมหมดไป โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสี่หาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share