แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรมธรรม์ประกันภัยระบุชื่อ อ. เป็นผู้เอาประกันภัย โดยไม่ระบุว่า กระทำในฐานะผู้แทนห้างจำเลยที่ 2 แต่ อ. เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ ห้างจำเลยที่ 2 และรถยนต์คันที่ เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยที่ 3 ก็เป็นของห้างจำเลยที่ 2 มิใช่ของ อ.เป็นส่วนตัวอ. จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ในรถยนต์ที่เอาประกันภัย การที่ อ. นำรถยนต์ดังกล่าวไปทำ สัญญาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 จึงเป็น การกระทำในฐานะผู้แทนของ ห้างจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนิติบุคคล เพราะความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฏจากผู้แทนของนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 ถือได้ว่าเป็นการกระทำของห้างจำเลยที่ 2 เอง การ ที่ไม่ระบุไว้ ในกรมธรรม์ประกันภัยว่า อ. กระทำการแทนห้าง จำเลยที่ 2 หาทำให้ การกระทำในฐานะผู้แทนของนิติบุคคลกลับกลายเป็นการกระทำใน ฐานะส่วนตัวไปไม่ เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 3 เป็น ผู้รับประกันภัยค้ำจุนจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามมาตรา 887
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80-0803 อยุธยา ของจำเลยที่ 2 ไปในทางการที่จ้างโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนเสาเหล็กติดตั้งโคมและอุปกรณ์ไฟฟ้าสาธารณะของโจทก์เสียหาย โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถคันดังกล่าวของจำเลยที่ 2 ขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การว่ารับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ตามฟ้องไว้เพื่อความรับผิดชอบของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 มิใช่ลูกจ้างของผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.1 จะระบุชื่อนายอุทิศ เสริฐศรี เป็นผู้เอาประกันภัย โดยไม่ระบุว่ากระทำในฐานะผู้แทนห้างจำเลยที่ 2 แต่นายอุทิศเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 2 และรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80-0803 อยุธยา ที่เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยที่ 3ก็เป็นของห้างจำเลยที่ 2 มิใช่ของนายอุทิศเป็นส่วนตัว นายอุทิศจึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ การที่นายอุทิศนำรถยนต์ดังกล่าวไปทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำในฐานะผู้แทนของห้างจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนิติบุคคล เพราะความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฏจากผู้แทนของนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำของห้างจำเลยที่ 2 เอง การที่ไม่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยว่า นายอุทิศกระทำการแทนห้างจำเลยที่ 2 หาทำให้การกระทำในฐานะผู้แทนของนิติบุคคลกลับกลายเป็นการกระทำในฐานะส่วนตัวไปไม่เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
พิพากษายืน