คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1632/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยพร้อมกันในนัดแรก โดยทนายโจทก์และทนายจำเลยทราบวันนัดแล้ว ครั้นถึงวันนัดฝ่ายโจทก์ไม่มาศาล ส่วนทนายจำเลยมาศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรคแรก โจทก์จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ ทั้งกรณีอาจเป็นเพราะโจทก์บันทึกวันนัดของศาลผิดพลาดไปเอง มิใช่เรื่องที่โจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานตามมาตรา 203 ที่จะเพิกถอนคำสั่งนั้นได้ จึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้คดีในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก โจทก์และจำเลยขอเลื่อนการสืบพยาน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๒๙ เวลา ๙ นาฬิกา ทนายโจทก์และทนายจำเลยทราบวันนัดแล้วโดยลงลายมือชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๒๙ ครั้นถึงวันนัดคือวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๒๙ ฝ่ายโจทก์ไม่มาศาลส่วนทนายจำเลยมาศาลและแถลงว่า โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ต่อมาวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ โจทก์และจำเลยยื่นคำร้องร่วมกัน โดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เข้าใจผิดว่าวันนัดสืบพยานโจทก์เป็นวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาโจทก์และจำเลยขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีเพื่อโจทก์และจำเลยจะได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ต่อมาวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๒๙ โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์เข้าใจผิดว่าวันนัดสืบพยานโจทก์เป็นวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ เวลา ๖ นาฬิกา โจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา โจทก์และจำเลยได้ตกลงนัดสืบพยานโจทก์วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ เวลา ๙ นาฬิกา อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ที่แท้จริง ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีเพื่อโจทก์และจำเลยจะได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่มีเหตุเพิกถอนคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์และจำเลยได้ตกลงกันขอนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยในวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ เวลา ๙ นาฬิกา แต่เจ้าหน้าที่ศาลพิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาผิดพลาดไปเป็นวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๒๙ โจทก์และจำเลยได้ทักท้วงแล้ว เจ้าหน้าที่รับว่าจะเรียนศาลเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องตามที่โจทก์จำเลยตกลงนัดกันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เพิ่งอ้างขึ้นมาลอย ๆ ในชั้นฎีกาทั้งจำเลยก้แก้ฎีกาว่าฝ่ายจำเลยมิได้ตกลงกับโจทก์ดังที่โจทก์อ้าง เจ้าหน้าที่ศาลพิมพ์วันนัดถูกต้องแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังดังที่โจทก์ฎีกา ทั้งฝ่ายจำเลยก็มาศาลถูกต้องตามวันนัดในรายงานกระบวนพิจารณา จึงเชื่อไม่ได้ว่าศาลได้นัดพิจารณาในวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๙ เวลา ๙ นาฬิกา แต่มีการพิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาผิดพลาดกรณีอาจเป็นเพราะว่าโจทก์บันทึกวันนัดของศาลผิดพลาดไปเอง จึงมิใช่เรื่องที่โจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๓ แต่เป็นกรณีที่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๒๐๑ วรรคแรก การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความจึงชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งนั้นทั้งโจทก์มีจะมีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ ดังนั้นศาลชั้นต้นจึงไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอย่างใด
พิพากษายืน

Share