แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถือมีดโต้เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แล้วเงื้อมีดโต้ขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายกับพวกซึ่งอยู่ในบ้านผู้เสียหายในขณะนั้น แม้ผู้เสียหายจะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปดูโทรทัศน์ในบ้านตนได้ ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรหรือได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายให้เข้าไปได้ เพราะจำเลยมิได้เข้าไปดูโทรทัศน์ ที่ผู้เสียหายมิได้กล่าวห้ามปรามหรือกล่าวคำขับไล่จำเลยก็หาได้แสดงว่า ผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ทุกอนุมาตราประกอบด้วยมาตรา 364
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔, ๓๖๕, ๒๘๘, ๘๐, ๙๑ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ และมาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๙๑ ลงโทษฐานบุกรุก จำคุก ๒ ปี ฐานพยายามฆ่า จำคุก ๑๐ ปี รวมจำคุก ๑๒ ปี คำให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ ๑ ใน ๔ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๙ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔, ๓๖๕ คงจำคุกจำเลยฐานพยายามฆ่า ๗ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดี ข้อเท็จจริงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยถือมีดโต้เข้าไปในบ้านของนายหนูกรผู้เสียหาย แล้วเงื้อมีดโต้ขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายกับพวกซึ่งอยู่ในบ้านผู้เสียหายในขณะนั้น การเข้าไปบ้านของผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวของจำเลยนั้น ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรหรือได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายให้เข้าไปได้ เพราะแม้ผู้เสียหายจะอนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปดูโทรทัศน์ในบ้านของตนได้ ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าผู้เสียหายอนุญาตให้จำเลยเข้าไปในบ้านของตน เพราะจำเลยมิได้เข้าไปดูโทรทัศน์ แต่จำเลยถือมีดโต้เข้าไปขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายเอง ที่ผู้เสียหายมิได้กล่าวคำห้ามปรามจำเลยมิให้เข้าบ้านของตน ทั้งมิได้กล่าวคำขับไล่จำเลยดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ก็หาได้แสดงว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายไม่ ทั้งนี้เพราะจำเลยมีอาวุธมีดโต้อยู่ในมือและขู่เข็ญผู้เสียหาย ผู้เสียหายย่อมไม่กล้าห้ามปรามหรือขับไล่จำเลย ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าว คดีฟังได้แน่ชัดว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ ทุกอนุมาตรา ประกอบด้วยมาตรา ๓๖๔ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น