คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นไว้. โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่ไม่ได้. เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่. จำเลยจะฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบไม่ได้. เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้ามาตัดต้นไม้และเข้าครอบครองที่ดินของโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องและขอให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่งอกจากที่ดินของจำเลยและจำเลยได้ครอบครองตลอดมา คู่ความรับกันว่าที่พิพาทเป็นที่งอกจากที่ดินของจำเลยศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาว่าที่งอกย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยเจ้าของที่ดินริมตลิ่งให้ยกฟ้องของโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาเช่นนั้นไม่ชอบ เพราะเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานนั้น โจทก์มิได้คัดค้านคำสั่งไว้โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้สืบพยานใหม่ไม่ได้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมิได้ยกประเด็นนี้ขึ้นในคำแก้อุทธรณ์จำเลยจึงยกขึ้นฎีกาไม่ได้ เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

Share