แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าแจ้งความจำเลยเป็นข้าราชการประจำกรมการสนเทศกระทรวงเศรษฐการได้รับมอบหมายให้เก็บเงินค่าแจ้งความเมื่อปรากฏว่าเงินตามต้นขั้วใบเสร็จจำนวน 9,280 บาทนั้นจำเลยส่งครบแล้วและเป็นจำนวนที่ถูกต้องกับคำลงแจ้งความแม้จะปรากฏว่าใบเสร็จปลายขั้ว 46 ฉบับซึ่งมีจำนวนเกินกว่าต้นขั้ว3,695 บาทจำเลยหานำส่งไม่ ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นค่าทำบล๊อกเงินจำนวนที่ไม่นำส่งนี้ทางกระทรวงไม่ได้เสียหายอย่างใดโดยข้อกฎหมายจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับราชการเป็นเสมียนแผนกบรรณาธิการกองข่าวสารการค้า กรมการสนเทศ กระทรวงเศรษฐการและอธิบดีกรมการสนเทศได้สั่งให้จำเลยปฏิบัติการช่วยราชการแผนกสื่อข่าวการพาณิชย์
หัวหน้าแผนกสื่อข่าวได้มอบใบเสร็จค่าลงแจ้งความในหนังสือดังกล่าวให้จำเลยมีหน้าที่เก็บเงินโดยมอบให้ไปทั้งต้นขั้วและปลายต้นขั้ว จำเลยกับพวกไปเก็บเงินได้แล้ว แต่นำส่งเพียง 9,280 บาท อีก 3,695 บาทจำเลยบังอาจยักยอกเอาไว้เป็นอาณาประโยชน์ตนเสียโดยเจตนาทุจริต ทั้งนี้โดยจำเลยเพทุบายลงจำนวนเงินในปลายต้นขั้วใบเสร็จรับเงินสูงกว่าจำนวนในต้นขั้ว ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 314, 319(1)และคืนเงินแก่กรมการสนเทศ
จำเลยปฏิเสธและตัดฟ้องว่ากรมการสนเทศไม่ใช่ผู้เสียหายฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลอาญาพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 ให้จำคุก 6 เดือน แต่จำเลยได้พยายามชำระเงินให้จนครบแล้ว ลดให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเงินตามต้นขั้วใบเสร็จจำนวน 9,280 บาทนั้นจำเลยนำส่งครบถ้วนแล้ว แต่ปรากฎว่าใบเสร็จปลายขั้ว 46 ฉบับซึ่งมีจำนวนเกินกว่าต้นขั้ว 3,695 บาท จำเลยหานำส่งไม่ ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นค่าจ้างทำบล๊อกหรือแม่พิมพ์
เงินจำนวน 9,280 บาทตามต้นขั้วใบเสร็จที่จำเลยนำส่งปรากฏว่าถูกต้องกับคำลงแจ้งความแล้ว ทางกระทรวงไม่มีเสียหายอย่างใดโดยข้อกฎหมายจะเอาผิดแก่จำเลยในทางอาญาฐานยักยอกไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ยักยอกทรัพย์ของกระทรวงเศรษฐการ
พิพากษายืน