คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลสองคนทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างร่วมกันในการวางท่อประปาตามถนนให้แก่กรมโยธาเทศบาล.และยอมรับผิดชอบร่วมกันและเป็นรายตัวสำหรับบรรดาข้อสัญญาทั้งมวล. แต่ผู้รับจ้างสองคนนั้นแบ่งงานกันทำ โดยคนหนึ่งเป็นผู้จัดหาวัสดุ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินงานวางท่อประปา. ถึงแม้ผู้รับจ้างคนที่ดำเนินงานวางท่อประปาจะกระทำละเมิดขุดท่อระบายน้ำของเทศบาลเสียหาย. แต่ผู้รับจ้างทั้งสองก็มิใช่ลูกจ้างนายจ้าง หรือตัวแทนตัวการซึ่งกันและกัน. ผู้รับจ้างอีกคนหนึ่งซึ่งมิได้ร่วมกระทำละเมิด. จึงหาจำต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดนั้นด้วยไม่. เพราะมิใช่ความรับผิดชอบตามสัญญาต่อผู้ว่าจ้าง.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยหรือคนงานของจำเลยขุดถนน เป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ขุดหรือให้คนงานของจำเลยขุดถนนเป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบว่า.บุคคลอื่นเป็นผู้ทำให้โจทก์เสียหายได้. เพื่อแสดงให้เห็นว่า. จำเลยไม่จำต้องรับผิดตามฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคู่สัญญารับเหมาทำงานอุตสาหกรรม ทำการขุดและถมวางท่อประปาตามถนนสายต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครและธนบุรีกับกรมโยธาเทศบาลจำเลยได้ขุดหรือคนงานของจำเลยขุดถนนเพื่อวางต่อประปาตามถนนสายต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครและธนบุรี จนเป็นเหตุให้ท่อหรือทางระบายน้ำอันเป็นทรัพย์สินของโจทก์แตกชำรุดเสียหายเป็นเงิน1,292,000 บาท จำเลยไม่ยอมใช้ค่าเสียหาย ขอให้บังคับ จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมิได้ขุดหรือให้คนงานของจำเลยขุดถนนวางท่อประปาจนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย จำเลยไม่ต้องรับผิด และโจทก์เสียหายไม่มาก กรมโยธาเทศบาลเป็นนายจ้างจำเลยและบริษัทดรากาซ จำกัด ให้วางต่อประปา กรมโยธาเทศบาลมีหน้าที่ทำให้สถานที่ที่จะวางท่อปราศจากสิ่งกีดขวาง จึงมีหน้าที่รับผิด และคดีขาดอายุความแล้ว ชั้นพิจารณา จำเลยรับว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตามฟ้องจริง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า กรมโยธาเทศบาลได้ทำสัญญาว่าจ้างจำเลยดำเนินการปรับปรุงระบบการส่งและจำหน่ายน้ำประปา รวมทั้งการวางท่อประปาในกรุงเทพฯ ตามเอกสาร จ.1 หรือ ล.4 และได้มีการทำสัญญาเพิ่มเติม ล.5 ให้บริษัทดรากาซเข้ามาร่วมกันจำเลยเพื่อดำเนินการรับจ้างตามสัญญาฉบับแรก สัญญา ล.5 ข้อ 4 วรรคแรก มีความว่าผู้รับจ้างตกลงว่าผู้รับจ้างร่วมจักเป็นคู่สัญญาพร้อมกันกับผู้รับจ้าง และวรรคสามว่า ทั้งผู้รับจ้างและผู้รับจ้างร่วมตกลงในอันที่จะรับผิดชอบร่วมกันซึ่งหมายความว่า บริษัทดารกาซได้เข้ามาเป็นคู่สัญญากับกรมโยธาเทศบาลร่วมกับจำเลยที่จำเลยทำไว้ตามข้อตกลงในเอกสาร ล.4 ข้อตกลงแบ่งงานกันระหว่างจำเลยกับบริษัทดรากาซจะมีอยู่อย่างไร ย่อมไม่ผูกพันกรมโยธาเทศบาลผู้ว่าจ้าง ตามคำนายจำลองรับว่าคนงานของบริษัทดรากาซเป็นผู้ก่อความเสียหายต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลนอกสัญญา จำเลยผู้รับจ้างร่วมกับบริษัทดรากาซจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์ตามฟ้อง คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิม กรมโยธาเทศบาลได้ทำสัญญาว่าจ้างจำเลยให้ทำการวางท่อประปาตามถนนสายต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครและทำสัญญาเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ขยายการวางท่อประปาไปถึงจังหวัดธนบุรีด้วยตามเอกสาร ล.4 ต่อมาได้ทำสัญญาตามเอกสาร ล.5 ให้บริษัทดรากาซเข้ามาเป็นผู้รับจ้างร่วม โดยมีข้อสัญญาตอนหนึ่งว่าทั้งผู้รับจ้าง(จำเลย) และผู้รับจ้างร่วม (บริษัทดรากาซ) ตกลงในอันที่จะรับผิดชอบรวมกันและเป็นรายตัวสำหรับบรรดาข้อสัญญาทั้งมลวที่ได้กำหนดและบ่งไว้ในสัญญาว่าจ้างและสัญญาเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาฉบับนี้ไม่ปรากฏว่า บริษัทดรากาซได้เข้ามารับช่วงงานจากจำเลย และบริษัทดรากาซไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยแต่เป็นเรื่องที่จำเลยกับบริษัทดรากาซต่างได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างร่วมกับจำเลยในการวางท่อประปาตามที่จำเลยทำสัญญาไว้กับกรมโยธาเทศบาล และบริษัทดรากาซกับจำเลยตกลงกันที่จะรับผิดชอบร่วมกันและเป็นรายตัว แต่เฉพาะข้อสัญญาที่จำเลยทำไว้กับกรมโยธาเทศบาลมาแต่แรกแล้วเท่านั้น ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บริษัทดรากาซเป็นผู้ดำเนินงานวางท่อประปาและขุดท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย มิใช่จำเลยเป็นผู้ทำละเมิดจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมิได้ให้การว่าบริษัทดรากาซเป็นผู้ทำให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย จำเลยไม่มีสิทธินำสืบในประเด็นข้อนี้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ทำให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย จำเลยก็ย่อมนำสืบให้เห็นว่าใครเป็นผู้ทำให้โจทก์เสียหายได้ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า จำเลยหาจำต้องรับผิดชอบตามฟ้องโจทก์ไม่ พิพากษายืน.

Share