แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยออกเช็คชำระราคาสินค้าแก่โจทก์ และต่อมาปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าว ย่อมเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพต่อเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อายุความย่อมสะดุดหยุดลง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองซื้ออาหารสุกรไปจากโจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 1สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้บางส่วนแก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นจึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้ราคาอาหารสุกรแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้หลายประการรวมทั้งต่อสู้ด้วยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาวินิจฉัยมีว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยจำเลยที่ 1 ฎีกาว่า หนี้ตามใบส่งของจนถึงวันฟ้องเกิน2 ปี คดีจึงขาดอายุความ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คหมาย จ.51 ชำระหนี้แก่โจทก์ดังที่ได้วินิจฉัยไว้ข้างต้นแล้ว เช็คดังกล่าวลงวันที่25 พฤศจิกายน 2522 ย่อมเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1ยอมรับสภาพต่อเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172อายุความย่อมสะดุดหยุดลง โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2523 คดีจึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน