แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนเป็นเพียงหนังสือราชการเท่านั้นมีไว้เพื่อความสะดวกในการควบคุมของเจ้าพนักงานและพนักงานเจ้าหน้าที่ หาได้มุ่งหมายให้เป็นสำคัญแก่การตั้งเปลี่ยนแก้ หรือเลิกล้างโอนกรรมสิทธิหรือหนี้สินแต่ประการใดไม่ จึงไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 6(20)
เมื่อจำเลยปลอมใบทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนจะลงโทษตาม มาตรา 225 ไม่ได้
ปัญหาเรื่องการรอการลงโทษจำเลยหรือไม่นี้เกี่ยวกับดุลพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คู่ความจะฎีกาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมใบทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนชนิดรถจักรยานสองล้ออันเป็นหนังสือสำคัญในราชการโดยแก้ไขข้อความในรายการชนิดและเลขหมายประจำเครื่อง ที่เจ้าพนักงานได้ออกให้จำเลยและจำเลยได้ลักรถจักรยานสองล้อ 1 คันของบิดาจำเลย ๆ ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์กระทงหนึ่งตามมาตรา 288, 54 จำคุก 6 เดือน และฐานปลอมหนังสือราชการตาม มาตรา 222, 224 จำคุก 6 เดือน รวมเป็น 1 ปี ลดตามมาตรา 58 ทวิ เพราะเป็นเยาวชน 1 ใน 3 เหลือ 8 เดือน ลดตามมาตรา 59 กึ่งคงจำคุก 4 เดือน
โจทก์จำเลยต่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ 2 ปี ตามมาตรา 41, 42
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือสำคัญในราชการ และไม่ควรรอการลงโทษ
ศาลฎีกาเห็นว่าเอกสารชนิดนี้เป็นเพียงหนังสือราชการเท่านั้นแม้จะมีช่องสำหรับระบุชื่อเจ้าของไว้ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติล้อเลื่อน พ.ศ. 2478 แล้วย่อมเห็นได้ว่ามีไว้เพียงเพื่อความสะดวกในการควบคุมของเจ้าพนักงานและพนักงานเจ้าหน้าที่อันเกี่ยวกับยานพาหนะนั้นนั่นเอง หาได้มีความมุ่งหมายให้เป็นสำคัญแก่การตั้ง เปลี่ยนแก้หรือเลิกล้างโอนกรรมสิทธิ์หรือหนี้สินแต่ประการใดตามกฎหมายไม่ จึงไม่ใช่หนังสือสำคัญตามกฎหมายอาญา มาตรา 6(20) จะลงโทษจำเลยตาม มาตรา 225 ไม่ได้ ฎีกาข้อ 2 ที่โจทก์เสนอว่าไม่ควรรอการลงโทษแก่จำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อนี้เกี่ยวกับดุลยพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับวินิจฉัย พิพากษายืน