คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรรมสิทธิในที่ดินเป็นสิทธิอย่างหนึ่งต่างหากจากการขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร เพราะการปลูกสร้างอาคารนั้นมีกฎหมายบัญญัติไว้อีกต่างหาก ผู้ใดจะทำการปลูกสร้างอาคารต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง
ที่พิพาทอยู่ในเขตที่จะต้องตัดถนนตามพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ฯลฯ 2473 โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารในที่พิพาท จำเลยมีคำสั่งไม่อนุญาตดังนี้เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพราะตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 2 บัญญัติว่า”ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดปลูกสร้างโรงเรือนหรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดลงในที่ดินภายในเขตนั้น นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าพนักงาน”

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2496 โจทก์เช่าส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนด 1649 ถนนวังเดิม ตำบลวัดอรุณ กิ่งอำเภอบางกอกใหญ่ธนบุรี จากนางประไพพักตร์เพื่อก่อสร้างอาคารให้เช่า 10 คูหา ครั้นเดือนมิถุนายน 2496 โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างต่อจำเลยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจำเลยไปตรวจตอกหลักกำหนดเขตให้โจทก์และผ่านการตรวจของนายช่างใหญ่แล้วไม่ขัดข้องเสนอต่อคณะเทศมนตรีอนุมัติคณะเทศมนตรีพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ก่อสร้าง เพราะที่ดินบริเวณนี้อยู่ในเขตกฤษฎีกาให้ระงับการก่อสร้างเด็ดขาด อันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะที่ดินยังไม่ถูกเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา ทั้งเทศบาลก็อนุญาตให้เอกชนสร้างไปแล้วในเขตกฤษฎีกา คำสั่งห้ามจึงเป็นคำสั่งฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย คือสัมภาระที่เตรียมไว้เสื่อมเสียสูญหายไป 9,000 บาท ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของจำเลยดังกล่าว และอนุญาตให้โจทก์ก่อสร้างต่อไป ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 9,600 บาท

จำเลยให้การว่าคำสั่งของจำเลยชอบด้วยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อตัดและขยายถนนฝั่งจังหวัดพระนครและธนบุรี ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2473 ฯลฯและพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 และเทศบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2489 จำเลยไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่ากรรมสิทธิในที่ดินนั้นเป็นเรื่องส่วนหนึ่งต่างหากจากการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารเพราะการปลูกสร้างอาคารมีกฎหมายบัญญัติไว้ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามมิใช่ว่าผู้เป็นเจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะปลูกสร้างอาคารได้โดยพละการตามความพอใจ

ที่พิพาทอยู่ในเขตที่จะต้องตัดถนนสาย 2 ตามพระราชกฤษฎีกาฯลฯ พ.ศ. 2473 คำสั่งห้ามของจำเลยจึงชอบด้วยพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว พ.ศ. 2473 มาตรา 2 มีความว่า “ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดปลูกสร้างโรงเรือนหรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดลงในที่ดินภายในเขตนั้น นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าพนักงาน” แล้ว

พิพากษายืน

Share