คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องในฐานะเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าทดแทนตามที่เห็นสมควรต่อศาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 มาตรา 28 เพราะผู้ร้องคัดค้านมิใช่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืน ส่วนผู้ร้องคัดค้านทั้งสองฝ่ายต่างคัดค้าน เป็นปรปักษ์กันเองว่าต่างคนต่างเป็นเจ้าของแต่ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองเห็นว่าเงินค่าทดแทนยังไม่เป็นธรรม ผู้ร้องไม่มีสิทธิวางเงินต่อศาล ขอให้ยกคำร้องคดีจึงมีประเด็นว่าผู้ร้องมีสิทธิวางเงินรายนี้ได้หรือไม่ และถ้ามีสิทธิวางได้ ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองจะมีสิทธิรับเงินที่วางได้เพียงไรหรือไม่ แต่ในการพิจารณา ศาลเพียงแต่สอบถามคู่ความเมื่อไม่ตกลงกันก็มีคำสั่งให้คู่กรณีไปดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย โดยมิได้วินิจฉัยชี้ขาดประเด็นที่พิพาท ผู้ร้องคัดค้านจึงยังไม่อยู่ในฐานะที่จะมีสิทธิรับเงินรายนี้ได้ตามกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้ ผู้ร้องในฐานะเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ร้องว่า นางแอบเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จะต้องเวนคืนราคา ๕ ล้านกว่า นางแอบถึงแก่กรรมไปแล้ว นายบรรจงกับนางสาวบุตรขอรับเงินค่าทดแทน ผู้ร้องเห็นว่าบุคลทั้งสองมิใช่เจ้าของขณะยื่นคำร้องขอรับเงิน ผู้ต้องจำเป็นต้องนำเงินค่าทดแทนมาวางศาล ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๗๘ เพื่อขอศาลได้จ่ายแก่ผู้มีสิทธิขอรับ
นายบรรจงกับนางสาวบุตรีคัดค้านว่า คณะกรรมการเวนคืนกำหนดค่าทดแทนต่ำไป ฯลฯ ขอให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องและผู้คัดค้านไม่อาจตกลงกันได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คู่กรณีดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย ต่อมานางสาวบุตรีถึงแก่กรรม นางแผ้ว และนางอารีขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ ศาลอนุญาต นายบรรจง นางแผ้ว นางอารียื่นคำร้องร่วมกันว่า นายบรรจงฟ้องนางสาวบุตรี ขอให้ศาลสั่งว่าทรัพย์ที่ถูกเวนคืนเป็นของนายบรรจง คดีอยู่ระหว่างพิจารณาทั้งสองฝ่ายขอรับเงินที่ผู้ร้องวางศาลไปฝากธนาคาร
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องคัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองฝ่ายฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ผู้ร้องในฐานะเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลป้อมปราบ อำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย จังหวัดพระนคร พ.ศ. ๒๕๐๖ ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าทดแทนตามที่เห็นสมควรต่อศาล ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.. ๒๔๙๗ มาตรา ๒๘ เพราะผู้ร้องคัดค้านมิใช่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนผู้ร้องคัดค้านทั้งสองต่างคัดค้านเป็นปรปักษ์กันเองว่าต่างคนต่างเป็นเจ้าของ แต่ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองเห็นว่าเงินค่าทดแทนยังไม่เป็นธรรม ผู้ร้องไม่มีสิทธิวางเงินต่อศาล ขอให้ยกคำร้อง คดีจึงมีประเด็นว่าผู้ร้องมีสิทธิวางเงินรายนี้ได้หรือไม่ และถ้ามีสิทธิวางได้ ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองจะมีสิทธิรับเงินที่วางได้พียงไรหรือไม่ แต่ในการพิจารณาศาลเพียงแต่สอบถามคู่ความ เมื่อไม่ตกลงกันก็มีคำสั่งให้คู่กรณีไปดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย โดยมิได้วินิจฉัยชี้ขาดประเด็นที่พิพาทแม้ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองจะได้กำลังพิพาทกันอยู่ในอีกคดีหนึ่งว่า ใครจะมีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืน แต่ขณะนี้ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองก็ยังไม่อยู่ในฐานะที่จะมีสิทธิรับเงินรายนี้ได้ตามกฎหมาย
พิพากษายืน

Share