คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติเพียงว่า เอาความอันเป็นเท็จฟ้องกล่าวหาเขาในทางอาญาเท่านั้นก็เป็นความผิด มิได้บัญญัติว่า เป็นความเท็จที่จะทำให้มีความผิดทางอาญา ทั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะป้องกันมิให้แกล้งกล่าวหากันในทางอาญา อันจะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกฟ้องได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ฉะนั้น เมื่อจำเลยแกล้งฟ้องโดยรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า เป็นความเท็จจึงย่อมมีความผิดตามมาตรานี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเอาความอันเป็นเท็จยื่นฟ้องนางบัวตองและนางวัลดาต่อศาลจังหวัดเชียงราย ว่าทำผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การที่จำเลยฟ้องนางบัวตองกับนางวัลดาเป็นความผิดทางอาญา เป็นการฟ้องเท็จพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕ ให้จำคุก ๑ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้คำบรรยายฟ้องของจำเลยเป็นเท็จ แต่ก็ไม่ใช่เท็่จว่านางบัวตองกับนางวัลดาทำผิดอาญา จำเลยไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาว่า จำเลยเป็นผู้ขีดคำว่านอนในเอกสารที่จำเลยมีถึงผู้เสียหาย ปัญหามีว่าการที่จำเลยขีดฆ่าเสียเองแล้วกลับมาฟ้องนางบัวตองนางวัลดาหาว่าเป็นผู้ขีดฆ่า จำเลยจะมีความผิดตามฟ้องเท็จหรือไม่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕บัญญัติเพียงว่า เอาความอันเป็นเท็จฟ้องกล่าวหาเขาในทางอาญาเท่านั้นก็เป็นความผิด มิได้บัญญัติว่า เป็นความเท็จที่จะทำให้มีความผิดทางอาญา ทั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะป้องกันมิให้แกล้งกล่าวหากันในทางอาญา อันจะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกฟ้องได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นผุ้ขีดฆ่าคำว่านอนเสียเอง แล้วแกล้งฟ้องกล่าวหาว่าผู้เสียหายเป็นผู้ขีดฆ่า เป็นผู้ปลอมแปลงเอกสาร เห็นได้ว่ามูลเหตที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างว่าผู้เสียหายกระทำความผิดนั้น จำเลยรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า เป็นความเท็จเมื่อจำเลยนำเอาความอันเป็นเท็จนั้นเป็นมูลเหตุกล่าวหาว่าเขากระทำความผิดทางอาญา การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามมาตรา ๑๗๕ โดยไม่จำต้องวินิจฉัยเลยไปว่า ข้อความที่จำเลยยกขึ้นเป็นเหตุฟ้องกล่าวหาเขานั้นจะเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕ ได้วางโทษจำคุกจำเลย ๓ เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๓ ปี

Share