คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายถือขวานใหญ่บุกรุกเข้าไปจะทำร้ายจำเลยถึงในบ้านจำเลยจึงฟันผู้ตายถูกที่ไหล่ซ้ายขวานตกจากมือผู้ตายก้มลงหยิบขวานและร้องเรียกให้พรรคพวกมาช่วยจำเลยจึงฟันซ้ำอีกหลายที เพราะเป็นขณะที่จำเลยกำลังตกอยู่ในระหว่างภยันตรายที่ใกล้จะถึงและร้ายแรงซึ่งได้เกิดขึ้นเฉพาะหน้าการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดพร้าฟันทำร้ายร่างกายนายเนื่อง พรมจันทร์เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายสาหัสถึงตายโดยเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

จำเลยให้การว่า ใช้พร้าฟันนายเนื่องตายเพื่อป้องกันตัว

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการเกินสมควรแก่เหตุมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 68, 69จึงพิพากษาจำคุกจำเลย 7 ปี ริบพร้าของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายถือขวานบุกรุกเข้าไปถึงในบ้านของจำเลยและเงื้อขวานใหญ่ทำท่าเงื้อจะฟันจำเลยในระยะที่อยู่ห่างกันเพียง 3 ศอก โดยจำเลยกำลังทำการไสกบจะทำเรือน จำเลยจึงต้องฟันผู้ตายถูกไหล่ซ้ายขวานตกจากมือ แล้วผู้ตายยังก้มลงหยิบขวานพร้อมกันนั้นผู้ตายก็เรียกให้พรรคพวกมาช่วย จำเลยจึงฟันซ้ำอีกหลายทีโดยความกลัวศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยจำต้องฟันซ้ำหลายทีนั้น ก็เพราะเป็นขณะที่จำเลยกำลังตกอยู่ในระหว่างภยันตรายที่ใกล้จะถึงและร้ายแรงซึ่งได้เกิดขึ้นเฉพาะหน้า อันเป็นเวลากระทันหันกำลังพัวพันกันอยู่ทั้งผู้ตายก็มีอาวุธขวานใหญ่ยาวศอกเศษและยังได้ร้องเรียกให้พรรคพวกมาช่วยอีก การที่จำเลยฟันซ้ำหลายทีจึงมีเหตุผลสมควร เพราะถ้าไม่กระทำดังนั้น หากมีพรรคพวกของผู้ตายมาช่วยและเวลานั้นที่บ้านของจำเลยก็อยู่แต่จำเลยคนเดียว จำเลยอาจถูกผู้ตายและพวกกลุ้มรุมทำร้ายถึงตายก็ได้ พฤติการณ์ที่จำเลยนำสืบ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share