แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กล่าวประจานหญิงว่าได้เคยเสียตัวกับจำเลยและชายอื่น ๆ แล้วเป็นผิดฐานหมิ่นประมาท และรื่องเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบว่าหญิงได้เคยเสียตัวกับจำเลยจริงเช่นนี้ศาลไม่ยอมให้สืล เพราะไม่เข้าข้อยกเว้นในมาตรา 283 ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.218
ย่อยาว
คดีได้ความว่าจำเลยทราบว่า ล.จะแต่งงานกับชายคนหนึ่ง จำเลยได้เขียนจดหมายไปให้ ล.และบุคคลอื่นอีกหลายคนว่า ล. ได้เสียตัวกับชายอื่นและเสียตัวกับจำเลยแล้ว โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษ
ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยต้องกันว่า ล.มิได้เป็นภรรยาจำเลยและข้อความในจดหมายเป็นคำกล่าวประจานใส่ความ ล.ให้ได้อายและเสียชื่อเสียง ให้ปรับจำเลย ๑๒๐ บาท ตามมาตรา ๒๘๒ ส่วนข้อที่ศาลชั้นต้นยอมให้จำเลยนำสืบว่า ล.ได้เสียหลับนอนกับจำเลยนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ม.๒๘๔ ห้ามมิได้สืบความจริง นอกจากเข้าอยู่ในข้อยกเว้นและคดีของจำเลยก็ไม่เข้าอยู่ในข้อยกเว้นจึงไม่วินิจฉัยข้อนำสืบของจำเลยในข้อนี้
จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีอำนาจนำสืบว่า ล.ได้เสียกับจำเลย และตาม ม.๒๘๓(๑) จำเลยมีอำนาจที่จะแสดงความชอบธรรมเนียมหรือต่อสู้ป้องกันตนหรือประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จะรับวินิจฉัยข้อนำสืบของจำเลยที่ว่า ล.ได้เสียตัวกับจำเลยหรือไม่ก็ไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงข้อวินิจฉัยในคดีนี้ไปได้ไม่ เพราะศาลล่างฟังต้องกันว่า ล. มิได้เป็นภรรยาจำเลยฎีกาจำเลยจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามมาตรา ๒๑๘ และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวประจานกันไม่ต้องข้อบัญญัติในมาตรา ๒๘๓ (๑) จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง