คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลย ดังนี้ จึงยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลยไม่ได้ และเมื่อปรากฏว่าจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญายังเรียกไม่ได้ว่าพ้นโทษมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา72 ไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความตามโจทก์หาและจำเลยให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2495 เวลากลางคืน จำเลยใช้ไม้ทำร้ายร่างกายนายบุญมีมีบาดเจ็บ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาลงโทษฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ จำคุก 15 วัน แต่ให้รอการลงอาญาไว้ยังไม่เกิน5 ปีมาครั้งหนึ่ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ให้จำคุก 1 เดือนปรับ 100 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 15 วันปรับ 50 บาท โทษจำคุกให้ยกตามมาตรา 40 คงปรับสถานเดียว จำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงเอาอาญาที่รอไว้มาลงไม่ได้ และจะเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่พ้นโทษครั้งก่อน

อัยการและนายบุญมีโจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ และลงอาญาที่รอการลงอาญาไว้กับเพิ่มโทษจำเลยอีกโสดหนึ่งด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

อัยการโจทก์ฝ่ายเดียวฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลย ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 42 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2494 หมายถึงจำเลยต้องคำพิพากษาลงโทษจำคุกจริง ๆ จึงจะยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลย และเมื่อจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญาเช่นนี้ยังไม่เรียกว่าพ้นโทษคดีก่อนมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้

พิพากษายืนให้ยกฎีกาโจทก์

Share