คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้อยู่รู้เห็นการกระทำผิด โจทก์ได้ร้องขอช่วย จำเลยเพิกเฉย เพียงเท่านี้ไม่พอให้ถือว่าจำเลยได้สมรู้ ให้ความอุปการะแก่การกระทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 65 เพราะจำเลยมิได้กระทำการอย่างใดที่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยที่ ๑ กระทำการชกต่อยและชิงทรัพย์โจทก์ จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ ๓-๔ เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งจำเลยที่ ๑ มาอยู่ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๒-๓-๔ รู้เห็นการกระทำผิดของโจทก์ ได้ร้องขอช่วย จำเลยที่ ๒-๓-๔ เพิกเฉยเสีย เป็นการสมรู้ให้ความอุปการะแก่การกระทำผิด ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๘,๒๙๙,๓๐๐,๖๕,๗๐
ศาลชั้นต้นสั่งไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๑ ส่วนจำเลยนอกนั้น แม้จะฟังได้ตามฟ้อง ก็ยังไม่มีมูลเป็นผิด ให้ยกฟ้องเกี่ยวแก่จำเลยที่ ๒-๓-๔
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้รู้เห็นการกระทำผิด โจทก์ได้ร้องขอให้ช่วยจำเลยเพิกเฉย เพียงเท่านี้ไม่พอให้ถือว่าจำเลยได้สมรู้ ให้ความอุปการะแก่การกระทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๖๕ เพราะจำเลยมิได้กระทำการอย่างใด ที่เป็นการอุปการะแก่กระทำผิดนั้น จึงพิพากษายืน

Share