คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญา ในชั้นสอบถามและสอบสวน จำเลยคนหนึ่งได้ให้การว่าได้ลักทรัพย์ไปให้แก่จำเลยคนอื่น โดยได้รับสินจ้างรางวัลนั้น แม้เป็นคำผู้ร้ายซัดทอด แต่เป็นคำประกอบเหตุผลในทางคดีแสดงความจริงให้เห็นกระจ่างยิ่งขึ้น ศาลรับฟังลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยที่ ๑,๒ ได้จ้างจำเลยที่ ๓ ลักสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๘๙/๒๔๙๑ ของศาลจังหวัดเลย และจำเลยที่ ๓ ได้ฉีกเอกสารต่าง ๆ ในสำนวนดังกล่าวไป เพื่อให้สูญหายเสีย เพื่อช่วยเหลือพลฯวิจิตรกับพวกจำเลยมิให้ได้รับอาญาตามกฎหมายขอให้ลงโทษ จำเลยที่ ๑,๒ ปฏิเสธ จำเลยที่ ๓ รับว่าได้ลักเอกสารต่าง ๆ ตามที่โจทก์ฟ้องไปจริง แต่ยังคงยืนยันว่าลักไปเพื่อประโยชน์ตนเอง ไม่มีผู้ใดจ้างหรือใช้ให้ลัก ศาลชัน้ต้นพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง ๓ คนละ ๒ ปี ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๖๔ ,๒๙๔(๓) ลดโทษให้จำเลยที่ ๓ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑ ปี
ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑,๒
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๓ ให้การในชั้นสอบถามว่า +ได้ลักเอาสำนวนความไปให้แก่จำเลยที่ ๑,๒ โดยได้รับสินจ้างรางวัล แม้จะเป็นคำผู้ร้ายชัดทอด แต่ก็เป็นเหตุประกอบเหตุผลในคดี แสดงความจิรง ให้เห็นกระจ่างแจ่มใสยิ่งขึ้น คดีมีคำพะยานหลักฐานและเหตุผลเพียงพอที่จะชี้ขาดลงโทษจำเลยที่ ๑,๒ ได้
พิพากษาให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น

Share