แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 บัญญัติให้สิทธิบุคคลผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำ หรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำขอ โดยทำเป็นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งยืนตามกลับหรือ แก้ไขหรือสั่งประการใดตามที่ศาลเห็นสมควรได้ แต่ตามคำร้องของผู้ร้องปรากฏเพียงว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้ทั้งสองครั้ง มีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการนำพื้นที่ลานจอดรถ ชั้นที่ 1 ของอาคารซึ่งเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ออกให้บุคคลภายนอก เช่าเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้ดำเนินการอย่างใดตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้และยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้ร้องแต่ประการใด ดังนั้น ผู้ร้องจึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนการกระทำของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม มาตรา 146 ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ไว้เด็ดขาด ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ระงับในการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะนำพื้นที่จอดรถในชั้นที่ 1 ของอาคารอาณารักษ์ ซึ่งผู้ร้องเช่าจากลูกหนี้มีกำหนด 20 ปีไปให้นางพินรี สัณฑ์พิทักษ์ หรือผู้อื่นเช่า และหากมีการทำสัญญาเช่าไปแล้วขอให้เพิกถอนสัญญาเช่า
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โดยเห็นว่าไม่ปรากฏว่าความเสียหายของผู้ร้องเกิดจากการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คำร้องของ ผู้ร้องจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องของ ผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้เช่าอาคารอาณารักษ์ชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 5 เลขที่ 15/10 ซอยพิพัฒน์ ถนนสีลม แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จากลูกหนี้มีกำหนดระยะเวลาเช่าจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2554 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2540 และวันที่ 23 มกราคม 2541 ผู้ร้องทราบจากรายงานการประชุมเจ้าหนี้ครั้งที่ 6 และครั้งที่ 7 ว่าที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการให้บุคคลภายนอกเข้าทำสัญญาเช่าลานจอดรถของอาคารอาณารักษ์ที่ผู้ร้องเช่าอยู่เพื่อเก็บผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องและผู้เช่าช่วงรายอื่น ๆ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องจะขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำลานจอดรถดังกล่าวไปให้บุคคลภายนอกเช่าได้หรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 บัญญัติให้สิทธิบุคคลผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งยืนตามกลับหรือแก้ไขหรือสั่งประการใดตามที่ศาลเห็นสมควรได้แต่ตามคำร้องของผู้ร้องดังกล่าว ปรากฏเพียงว่าที่ประชุมเจ้าหนี้ทั้งสองครั้งมีมติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการนำพื้นที่ลานจอดรถชั้นที่ 1 ของอาคารซึ่งเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ออกให้บุคคลภายนอกเช่าเพื่อหาผลประโยชน์เข้ากองทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้นขณะผู้ร้องยื่นคำร้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมิได้ดำเนินการอย่างใดตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ และยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องแต่ประการใด ดังนั้น ผู้ร้องจึงยังไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามคำร้องตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน