แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อัยการและผู้เสียหายต่างอุทธรณ์ด้วยกัน โดยผู้เสียหายขอให้ศาลอุทธรณ์อย่ารอการลงโทษแก่จำเลย อัยการขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษให้หนักขึ้น ดังนี้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตามคำขอของอัยการได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
ย่อยาว
คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา เฉพาะจำเลยที่ ๑ ซึ่งโจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นกำนันตำบลบ้านกุ่ม ได้สมคบกับจำเลยที่ ๒ ถึง ๕ ใช้มีดและปืนขู่เข็ญและใช้กำลังกายฉุดคร่านางสาวยู่เจ็ง และหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อการอนาจาร ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญาม.๒๖๘,๒๗๐,๒๗๖
จำเลยที่ ๑ ปฏิเสธ จำเลยนอกนั้นรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทุกคนมีความผิดตามมาตรา ๒๖๘,๒๗๐,๒๗๖ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๗๖ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑ ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้
อัยการอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ให้หนักไม่รอการลงอาญา ผู้เสียหายอุทธรณ์ขออย่ารอการลงอาญาแก่จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๒ ปี
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าผู้เสียหายอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ ผู้เสียหายไม่ได้ขอให้ลงโทษหนัก แต่อัยการขอให้ลงโทษหนัก จึงถือเอาคำขอของอัยการเป็นหลักในการวินิจฉัยคดีได้ไม่เกินคำขอเพราะความผิดตามมาตรา ๒๗๖ ไม่ใช่ความผิดส่วนตัว
พิพากษายืน