แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
ผู้เสียหายทั้งสี่ติดต่อกับบุตรทั้งสองของจำเลยจนตกลงใจจะไปทำงานในต่างประเทศและได้ไปขอหนังสือเดินทางนัดหมายชำระเงินค่าตอบแทนให้บุตรทั้งสองของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นแนะนำชักพาให้ผู้เสียหายเหล่านั้นนำเงินไปมอบให้แก่บุตรของตนแต่อย่างใดแม้จะปรากฏว่าขณะผู้เสียหายทั้งสี่นำเงินไปจ่ายตามนัดจำเลยอยู่ด้วยช่วยพูดเสริมคำของบุตรทั้งสองกับช่วยนับเงินที่ผู้เสียหายเหล่านั้นนำไปชำระเมื่อปรากฏว่าผู้เสียหายทั้งสี่ปลงใจที่จะจ่ายเงินถึงขนาดไปทำหนังสือเดินทางเสร็จกำหนดวันที่จะจ่ายเงินกันไว้แน่นอนแล้วโดยเชื่อตามคำพูดของบุตรทั้งสองของจำเลยก่อนที่จะพบกับจำเลยเช่นนี้ย่อมแสดงว่าผู้เสียหายทั้งสี่พร้อมที่จะจ่ายเงินให้บุตรทั้งสองของจำเลยไม่ว่าจำเลยจะอยู่ด้วยในวันนัดพบจ่ายเงินหรือไม่พฤติการณ์ของจำเลยยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำของบุตรทั้งสองของจำเลยจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนการฉ้อโกง.
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย กับพวก อีก 2 คน ร่วมกัน หลอกลวง ผู้เสียหายทั้ง สี่ ว่า สามารถ ส่ง ผู้เสียหาย ไป ทำงาน ที่ ประเทศ มาเลเซีย ได้โดย ผู้เสียหาย ต้อง จ่าย ค่า ดำเนินการ ให้ จำเลย กับพวก คนละ 5,000บาท ซึ่ง เป็น ความ เท็จ ผู้เสียหาย ทั้ง สี่ หลง เชื่อ จึง มอบ เงินให้ จำเลย กับพวก ไป ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,341, 91 และ ให้ จำเลย คืนเงิน 5,000 บาท แก่ ผู้เสียหาย แต่ ละ คน
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ฐาน สนับสนุน การ ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 86 จำคุก 1 ปี 4 เดือน คำขอ อื่น ให้ ยก
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับ ให้ ยกฟ้อง
โจทก์ ฎีกา ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ทางพิจารณา ไม่ ปรากฏ จาก พยาน หลักฐาน ของ โจทก์ว่า ตั้งแต่ แรก ที่ ผู้เสียหาย ทั้ง สี่ ติดต่อ กับ นาย วันดี และ นายวัตร บุตร จำเลย จน ตกลงใจ จะ ไป ทำงาน ที่ ประเทศ มาเลเซีย และ ได้ไป ขอ หนังสือ เดินทาง นัดหมาย วัน ชำระ เงิน ค่า ตอบแทน ให้ แก่ นายวันดี และ นาย วัตร จำเลย ได้ มี ส่วน เกี่ยวข้อง รู้เห็น และ นำ ชัก พาให้ ผู้เสียหาย เหล่านั้น มา นำ เงิน ไป มอบ ให้ แก่ บุตร ของ ตน แต่อย่างใด แม้ จะ ปรากฏ ว่า ขณะ ผู้เสียหาย ทั้ง สี่ นำ เงิน ไป จ่าย ตามนัด จำเลย จะ อยู่ ด้วย ช่วย พูด เสริมคำ ของ นาย วันดี และ นาย วัตรกับ ช่วย นับ เงิน ที่ ผู้เสียหาย นำ มา ก็ ตาม เมื่อ ปรากฏ ว่าผู้เสียหาย ทั้ง สี่ ปลง ใจ ที่ จะ จ่าย เงิน ถึง ขนาด ไป ทำ หนังสือเดินทาง เสร็จ กำหนด วัน ที่ จะ จ่าย เงิน กัน ไว้ แน่นอน แล้ว โดยเชื่อ ตาม คำพูด ของ นาย วันดี และ นาย วัตร ก่อน ที่ จะ พบ กับ จำเลยเช่นนี้ ย่อม แสดงว่า ผู้เสียหาย ทั้ง สี่ พร้อม ที่ จะ จ่าย เงิน ให้แก่ นาย วันดี และ นาย วัตร ไม่ ว่า จำเลย จะ อยู่ ด้วย ใน วันนัดพบจ่าย เงิน หรือไม่ ที่ ผู้เสียหาย ทั้ง สี่ กับพวก ไป พูดจา กับ นายวันดี และ นาย วัตร ใน วัน จ่าย เงิน ก็ เพียง เพื่อ ให้ ได้ รับ ความสบายใจ จาก คำพูด รับรอง ของ บุคคล ทั้ง สอง นี้ เท่านั้น พฤติการณ์ของ จำเลย เพียง เท่า ที่ ปรากฏ ยัง ฟัง ไม่ ได้ ว่า จำเลย ช่วยเหลือหรือ ให้ ความ สะดวก ใน การ กระทำ ของ นาย วันดี และ นาย วัตร จำเลยจึง ยัง ไม่ มี ความผิด
พิพากษา ยืน.