แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับจำเลยโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันจนจำเลยถูกโจทก์ตีทำร้ายถูกแสกหน้าแตกโลหิตไหล และเหตุการณ์ยุติลงไปแล้วตอนหนึ่ง ต่อมาจำเลยเดินกลับบ้านพบโจทก์ถือไม้กระทู้เป็นไม้ไผ่โตเท่าข้อมือ ยาวประมาณ 2 ศอก มายืนคอยดักทำร้าย ขณะที่จำเลยเข้าไปยังห่างโจทก์ 1 วา โจทก์เงื้อไม้ที่ถืออยู่ขึ้นจะตีศีรษะจำเลย จำเลยจึงใช้ปืนยิงถูกมือโจทก์แล้ววิ่งหนี หากจำเลยไม่ยิง จำเลยอาจถูกโจทก์ตีศีรษะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนี้ เป็นการใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2511 จำเลยได้บังอาจใช้ปืนยิงโจทก์ 3 นัดด้วยเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผลเพราะกระสุนปืนถูกหลังมือโจทก์ทะลุเป็นอันตรายบาดเจ็บสาหัสไม่ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลแล้วสั่งคดีมีมูล
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานโจทก์ฟังไม่ได้ตามฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยวิ่งไล่โจทก์และใช้ปืนยิงโจทก์เนื่องมาจากโกรธที่โจทก์เอาขวดตีศีรษะจำเลยแตกในตอนทะเลาะกันทีแรกแสดงเจตนาฆ่าโดยบันดาลโทสะ พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ประกอบด้วยมาตรา 72 จำคุก 2 ปี
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังว่า โจทก์กับจำเลยเป็นปากเสียงแล้วเข้ากอดปล้ำชกต่อยทำร้ายกัน โจทก์ใช้ขวดตีศีรษะจำเลยแตกและโจทก์วิ่งหนีไป ต่อมาจำเลยกลับบ้าน ได้พบโจทก์ตามทางโดยโจทก์มีไม้ไผ่โตขนาดเท่าข้อมือ ยาวประมาณ 2 ศอกเป็นอาวุธจะทำร้ายจำเลยจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงถูกข้อมือโจทก์ ข้อเท็จจริงที่ฟังได้ว่าโจทก์ถือไม้กระทู้เป็นไม้ไผ่เท่าข้อมือ ยาวประมาณ 2 ศอกมาคอยดักทำร้ายจำเลยขณะที่จำเลยเข้าไปยังห่างโจทก์ 1 วา โจทก์เงื้อไม้ที่ถือยู่ขึ้นจะตีศีรษะจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงไปถูกมือโจทก์แล้ววิ่งหนี หากจำเลยไม่ยิงโจทก์ โจทก์อาจใช้ไม้ที่โจทก์ใช้เป็นอาวุธตีถูกศีรษะจำเลยเป็นอันตรายถึงตายได้ จึงเป็นการใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว นับได้ว่าพอสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์