คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1580/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยรวม3กระทงๆละ2ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยกระทำผิดเพียงกรรมเดียวจำคุก2ปีเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามป.วิ.อ.มาตรา218 การที่เจ้าพนักงานตำรวจวางแผนให้สายลับไปจับหนังสือเดินทางปลอมมาให้ในคราวเดียวกันและหนังสือเดินทางทั้งสามฉบับกระทำขึ้นในคราวเดียวกันนั้นถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวมิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปลอมเอกสารราชการหนังสือเดินทางของประเทศ ซึ่งออกโดยกระทรวงต่างประเทศรวม 3 ฉบับ อันเป็นความผิดต่างกรรมกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา264, 265, 83, 91 และขอให้ริบของกลาง จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265, 91 จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 3 กระทง จำคุก 6 ปีริบของกลาง ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ทำเอกสารปลอมขึ้นในคราวเดียวกันเป็นความผิดกรรมเดียว พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 เพียงกรรมเดียวให้จำคุก2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1รวม 3 กระทงให้จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมเป็นจำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดเพียงกรมมเดียวจำคุก 6 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดเพียงกรรมเดียวจำคุก 2 ปีจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ที่โจทก์ฎีกาว่าหนังสือเดินทางปลอมมี 3 ฉบับ การจะทำปลอมต้องทำทีละฉบับเมื่อทำเสร็จฉบับหนึ่งแล้วก็เป็นความผิดสำเร็จสำหรับฉบับนั้นการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำผิดต่างกรรม เป็นความผิด3 กรรมนั้น เห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้าพนักงานตำรวจวางแผนให้สายลับไปจ้างทำหนังสือเดินทางปลอมมาให้ในคราวเดียวกัน และหนังสือเดินทางปลอมทั้งสามฉบับนั้นกระทำขึ้นในคราวเดียวกัน จากข้อเท็จจริงดังกล่าวศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 1 ทำปลอมเอกสารทั้งสามฉบับในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 1 ทำปลอมเอกสารทั้งสามฉบับในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวมิใช่หลายกรรมดังที่โจทก์ฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share