คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576-1577/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฝ่ายชายให้เถ้าแก่ไปหมั้นหญิงและกำหนดวันแต่งงานกันแล้วได้ตกลงกันให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้จัดซื้อเครื่องใช้สอยในครอบครัวเตรียมไว้สำหรับให้ชายหญิงจะได้ใช้สอยเมื่ออยู่กินด้วยกัน ถึงกำหนดชายหญิงก็ได้สมรสกันดังนี้ถือว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาเมื่อมีการสมรส แม้จะได้จัดหาซื้อไว้ก่อนวันสมรส ก็ไม่ถือว่าเป็นสินเดิมของหญิง

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนนี้ศาลพิจารณารวมกันสำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เป็นบุตรจำเลยที่ ๒ โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยที่ ๑ แล้วหย่ากันตามคำพิพากษาของศาล ก่อนสมรสโจทก์มีสินเดิมและสินส่วนตัวคือ ๑. ตู้ขนาดใหญ่ ๒. เก้าอี้นวม ๑ ชุด ๓. ขันเงินใหญ่ ๑ ใบ ๔. ที่นอน ๑ ชุด ๕. ตะเกียงลาน ๑ ดวง ๖. ปั้นเงิน ๑ ชุด ๗. พวงกุญแจนาค ๑ อัน ๘. ขันเงินล้างหน้า ๑ ใบ ๙. เตารีดไฟฟ้า ๑ อัน ๑๐. กระเป๋าหนัง ๑ ใบ ๑๑. ตู้เครื่องแป้ง ๑ ชุด ๑๒. เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของโจทก์ ๑๓. แหวนทองคำประดับเพชร ๑ วง รวมราคา ๒๙,๗๐๐ บาท โจทก์ขนทรัพย์สินดังกล่าวบางส่วนไปไว้ที่บ้านเรือนจำเลยก่อนวันสมรส และสวมแหวนติดตัวไปอยู่กับจำเลยที่ ๑ ทรัพย์สินเหล่านี้ยังอยู่ทีจำเลยทั้งสอง
สำนวนหลังโจทก์ฟ้องว่าเมื่อโจทก์สมรสแล้วได้ฝากเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ไว้กับจำเลยจำเลยไม่คืนให้ จึงขอให้บังคับให้จำเลยคืนทรัพย์และเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าทรัพย์สินตามฟ้องอันดับ ๑ ถึง ๑๑ เป็นสินสมรสโจทก์ชอบที่จะได้คืนเพียงครึ่งหนึ่งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอันดับ ๑๒ ยอมให้โจทก์เอาคืนไปแหวนเพชรอันดับ ๑๓ ไม่มีอยู่ที่จำเลย และจำเลยในสำนวนที่ ๒ ไม่เคยรับฝากเงิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คืนเครื่องนุ่งห่มแก่โจทก์ ทรัพย์สินอันดับ ๑ ถึง ๑๑ เป็นสินสมรสให้แบ่งให้โจทก์และนายเกียเสียงจำเลยที่ ๑ คนละส่วนเท่ากันถ้าแบ่งไม่ได้ให้เอาขายทอดตลาดแบ่งเงินตามส่วน คำขอนอกนั้นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
เฉพาะทรัพย์อันดับ ๑ ถึง ๑๑ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าได้ความว่าเมื่อนายเกียงเสียงให้เถ้าแก่ไปหมั้นโจทก์ และกำหนดวันแต่งงานกันแล้ว ก็ตกลงให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้จัดหาซื้อเครื่องใช้สอยในครอบครัว โจทก์นายกวงหยูบิดาโจทก์จึงได้ซื้อเครื่องเรือนและของใช้ตามฟ้องอันดับ ๑ ถึง ๑๑ และส่งเครื่องเรือนของใช้ที่ได้ซื้อบางสิ่งไปไว้ที่บ้านนายเกียเสียงก่อนวันแต่งงาน เห็นว่าทรัพย์สิน ๑๑ อันดับนี้เป็นทรัพย์สินที่ฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยเพิ่งจะตกลงกันให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดซื้อเมื่อโจทก์กับนายเกียเสียงกำหนดวันแต่งงานกันแล้ว และเป็นทรัพย์สินที่เตรียมไว้ให้โจทก์และนายเกียเสียงจะได้ใช้สอยเมื่อแต่งงานและอยู่กินกันฉันสามีภริยา ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาเมื่อมีการสมรส ถือไม่ได้ว่าเป็นสินเดิมของโจทก์
ในที่สุดพิพากษายืน

Share