คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นิติกรรมจำนองที่ดินทำขึ้นภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ถือเอานิติกรรมที่ปรากฏ ตามทะเบียนเป็นสำคัญ หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเปลี่ยนทางทะเบียน พฤติการณ์ที่ผู้จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ย จึงหาทำให้นิติกรรมกลายเป็นขายฝากไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้จำนองที่นาไว้กับจำเลย ทำสัญญากันที่หอทะเบียนที่ดิน และโจทก์ได้มอบที่นาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยจำเลยไม่ยอมให้ไถ่ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่า เมื่อโจทก์รับแล้วว่า การจำนองรายนี้ จำเลยทำนาต่างดอกเบี้ย พฤติการณ์เข้าบทขายฝาก ครบสิบปีหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยตามกฎหมาย คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยว่ากิริยาที่โจทก์จำเลยประพฤติต่อกันจะเป็นการขายฝากหรือจำนอง คู่ความไม่สืบพยาน

ศาลชั้นต้นเห็นเป็นการขายฝาก เมื่อไม่ไถ่ภายใน 10 ปี หมดสิทธิพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการจำนอง พิพากษาให้จำเลยรับชำระหนี้และปฏิบัติการไถ่ถอนจำนองที่นาคืนแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า นิติกรรมจำนองที่ดินรายนี้ทำขึ้นภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 แล้ว ต้องถือเอานิติกรรมที่ปรากฏตามทะเบียนเป็นสำคัญ หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ประกอบทั้งการขายฝากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถือว่าการขายฝากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซื้อหากแต่ผู้ขายอาจไถ่คืนได้ ฉะนั้นพฤติการณ์ที่ผู้จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ย จึงหาทำให้นิติกรรมกลายเป็นขายฝากไปไม่

พิพากษายืน

Share