แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไปคงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์+ไม่สมบูรณ์ตาม ก.ม.
(อ้างฎีกาที่ 117/2492)
ย่อยาว
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน+แผนกคลังจังหวัดสิงห์บุรี มีหน้าที่เก็บรักษาเงินคงเหลือวันหนึ่ง ๆ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๗ เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน คลังจังหวัด ฯ สั่งให้จำเลยนำเงินคลังนอก ๖๒,๓๑๙.๑๐ บาท ประจำวันที่ ๒๙ เม.ย. ๒๔๙๗ เข้าเก็บในกำปั่น แล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตบังอาจยักยอกเงินที่จำเลยเก็บรักษานี้ไป ๑๐,๐๐๐ บาท (จำเลยได้นำเงินที่ยักยอกนี้คืนแล้ว) ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๑๓๑ ที่แก้ไข
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันลงโทษจำคุกจำเลย ๒ ปี ตามตัวบท ก.ม.ที่ฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องของโจทก์กล่าวไว้เข้าใจได้เพียงว่า วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๗ เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน คลังจังหวัดสิงห์บุรีได้สั่งให้จำเลยนำเงินคลังนอกของรัฐบาลจำนวน ๖๒๓๑๙.๑๐ บ. ประจำวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๗ เข้าไปเก็บในกำปั่น+นอกแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตบังอาจยักยอกเงินที่จำเลยเก็บรักษาไว้เป็นประโยชน์ส่วนสัวของจำเลยเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ฯลฯ แต่โจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาไว้ในฟ้องว่าจำเลยได้คิดทุจริตยักยอกเอาเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ นั้นไว้วันใด เดือนใด เวลาใด และจะพิเคราะห์ตีความเอาว่าโจทก์หมายเอาวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๗ นั้นเอง เป็นวันที่จำเลยกระทำผิดก็ไม่ได้เพราะไม่มีข้อความตอนใดที่จะให้เข้าใจได้ดังนั้นแม้แต่วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยยักยอกก็ไม่ปรากฎในฟ้องฉนั้นฟ้องของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตาม ก.ม. ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗/๒๔๙๒ ระหว่างอัยการจังหวัดสงขลา โจทก์ นาย+ ช่วยชาติ จำเลย
จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์