แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำของเจ้าพนักงานที่กล่าวแก่ผู้ต้องหาว่าถ้ารับสารภาพจะได้ลดหย่อนผ่อนโทษ และจะได้ทำงานเบาดังนี้จะรับฟังเป็นพะยานหลักฐานไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้จำเลยต้องหาว่าปล้นปืนของเจ้าทรัพย์ไป ๑ กะบอกแลได้จับตัวบุตร์เจ้าทรัพย์ไปกักขังเพื่อจะเอาสินไถ่ ภายหลังจำเลยกลับเข้าหาข้าหลวงประจำจังหวัด ๆ ชี้แจงแก่จำเลยว่า ถ้ารับสารภาพจะได้ลดหย่อนผ่อนโทษและเมื่อต้องจำคุกถ้าประพฤติตนให้เรียบร้อยจะได้ลดโทษแลทำงานเบา
ปรากฎว่าตามคำของเจ้าพนักงานว่าจำเลยให้การชั้นสอบสวนว่าปืนของกลางนี้จำเลยได้แลกกับ ป.แต่มาในชั้นศาลจำเลยว่าไม่ได้เปลี่ยนปืนกับ ป. แลว่า ป.กับพวกแย่งปืนไป
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำของจำเลยในเรื่องปืนต่างกันไม่น่าเชื่อ แลโจทก์ยังมีพะยานอื่นประกอบ ฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๗๐-๒๙๓
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าที่ศาลอุทธรณ์ถือเอาคำพะยานโจทก์ในเรื่องที่จำเลยบอกถึงเรื่องปืนนั้น จะรับฟังเป็นหลักฐานไม่ได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๒๖ แต่คงฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์