แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
ในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นกับผู้กระทำผิด จึงให้ยกฟ้อง แต่วินิจฉัยต่อไปว่าจำเลยเคยเชิดผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนทำให้ผู้เสียหายเข้าใจผิด จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้เสียหายเสมือนผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนของจำเลยพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ฟังว่า ผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนนี้ เป็นการวินิจฉัยคดีเฉพาะในส่วนแพ่งโดยตรง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีอาญาแต่อย่างใดศาลสูงจึงไม่จำเป็นจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาในเรื่องตัวแทนนี้ด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันฉ้อโกงโจทก์ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔,๓๐๕,๓๐๖( ๓ ), ๓๑๔ กับให้ใช้เงิน ๔๔๙๐ บาทและดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง คงประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๑, – ๒, -๓, และในชั้นพิจารณาส่งหมายให้จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๑ คงขอให้พิจารณาเฉพาะจำเลยที่ ๒ – ๓ เท่านั้น
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นภรรยาน้อยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้กระทำผิด แต่จำเลยที่ ๒ – ๓ ไม่รู้เห็นด้วยจำเลยที่ ๒ – ๓ จึงยังไม่ผิดทางอาญา แต่ในทางแพ่งจำเลยปล่อยให้จำเลยที่ ๑ ผู้เป็นภรรยาน้อยไปติดต่อค้าขายกล่าวอ้างทำการในนามของจำเลย ๆ ก็เคยรับรองการกระทำนั้น ๆ โจทก์จึงเชื่อถือจึงได้มอบเงินและทรัพย์สิ่งของให้ไปในคดีนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้รู้เห็นก็ต้องรับผิดตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๘๒๑ – ๘๒๒ จึงพิพากษายกฟ้องในทางอาญา แต่ให้จำเลยรับผิดใช้เงินโจทก์ ๔๐๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา (ในส่วนแพ่ง)
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๔๖ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงในส่วนอาญา ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวข้องในการที่นางประยูร ( จำเลยที่ ๑ ) ไปเอาเงินและให้คนไปรับเอาของคืนมา แต่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยต่อไปอีกว่า จำเลยเคยปล่อยให้นางประยูรไปกล่าวอ้างทำการในนามของจำเลย และเคยรับรองการกระทำนั้น ๆ แม้จำเลยจะไม่ได้รู้เห็นในเรื่องนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดดังว่านางประยูรเป็นตัวแทนของจำเลยนั้น ข้อนี้เห็นว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเฉพาะคดีในส่วนแพ่งโดยตรง ซึ่งไม่เกี่ยวแก่คดีอาญาแต่อย่างใด ศาลฎีกาจึงไม่จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมา และเห็นว่าตามข้อเท็จจริง จะฟังว่านางประยูรเป็นตัวแทนของจำเลยในการที่เอาเงินของโจทก์ไป ไม่ได้
จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดในจำนวนเงิน ๔,๐๐๐ บาทตามที่ศาลล่างได้พิพากษามา