คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อฟังว่า จำเลยเป็นคนพาพวกปล้นไปว่าเช่ารถจากผู้หนึ่ง โดยออกอุบายว่าจะจ้างไปบรรทุกหวาย. หลังจากที่ได้หยุดรถรับพรรคพวกจนครบแล้วจำเลยก็เข้าทำหน้าที่ขับเอง. และยังได้หยุดรถแจกอาวุธกัน. ต่อจากนั้นจำเลยก็ขับไปยังบ้านที่เกิดเหตุ.เมื่อเสียงปืนดังขึ้นเจ้าของรถเห็นท่าไม่ดีจะขับรถกลับ. จำเลยเองกลับเป็นผู้ใช้กรรไกรขู่ไม่ให้เจ้าของรถลงจากรถ. แล้วจำเลยเลื่อนรถเข้าไปคอยพรรคพวก และพาหนีกลับจนกระทั่งรถน้ำมันหมด.จำเลยจึงทิ้งรถไปกับพวกคนร้าย. ต้องถือว่าตามพฤติการณ์จำเลยได้ร่วมกระทำความผิดด้วยโดยแบ่งหน้าที่รับเป็นผู้ขับรถให้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 6 คนมีปืนและกรรไกรเป็นอาวุธปล้นทรัพย์อันได้แก่ธนบัตรชนิดต่าง ๆ 7,000 บาท และทรัพย์อื่นของนายจาง แซ่เตีย และนางทองขาว เมืองปลอด รวมเป็นเงิน 9,700 บาทกับปล้นเอาธนบัตรชนิดต่าง ๆ 1,600 บาทและทรัพย์อื่น ๆ รวมเป็นเงิน4,650 บาทของนางสอาด (ความจริงนางฉลาด) ปัญญาไวย์ ในการปล้นจำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนและกรรไกรขู่เข็ญฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 83 และให้ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงินรวม 14,350บาทแก่เจ้าทรัพย์ด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างฐานที่อยู่ ศาลชั้นต้นเชื่อโดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายร่วมในการปล้นด้วย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,83 ให้จำคุก 12 ปีกับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 14,350 บาทแก่เจ้าทรัพย์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเชื่อตามคำพยานโจทก์ว่า จำเลยเป็นคนพาพวกปล้นไปว่าเช่ารถจากนายทำ โดยออกอุบายว่าจะจ้างไปบรรทุกหวายหลังจากที่ได้หยุดรถรับพรรคพวกจนครบแล้ว จำเลยก็เข้าทำหน้าที่ขับเอง และยังได้หยุดรถแจกอาวุธกัน ต่อจากนั้นจำเลยก็รับไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเสียงปืนดังขึ้นนายทำเห็นท่าไม่ดีจะขับรถกลับ จำเลยกลับเป็นผู้ใช้กรรไกรขู่ไม่ให้นายทำลงจากรถ แล้วจำเลยเลื่อนรถเข้าไปคอยพรรคพวกและพาหนีกลับจนกระทั่งรถน้ำมันหมด จำเลยจึงทิ้งรถไปกับพวกคนร้ายทิ้งนายทำกับนายหวังสองคนให้เฝ้ารถตามลำพัง จึงวินิจฉัยว่าตามพฤติการณ์ ถือว่าจำเลยได้ร่วมกระทำความผิดด้วย โดยแบ่งหน้าที่รับเป็นผู้ขับรถให้ มิใช่ถูกพวกปล้นบังคับ พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.

Share