แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.8.4 ที่ตกลงกันว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองการใช้รถโดยบุคคลของอู่ เมื่อรถยนต์ได้มอบให้อู่ทำการซ่อมนั้น หมายถึงกรณีที่นำรถยนต์ที่เอาประกันภัยไปมอบให้แก่อู่เรียบร้อยแล้ว ต่อมามีการใช้รถโดยบุคคลของอู่ กรณีนี้อู่ของจำเลยที่ 2 ยังมิได้รับมอบรถยนต์ของโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นเพียงพนักงานของจำเลยที่ 2 ในการไปขับรถยนต์มามอบให้อู่ของจำเลยที่ 2 เท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้รถโดยบุคคลของอู่ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 3,952,617 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 3,838,258 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 2,838,258 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 6 มีนาคม 2539 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในต้นเงิน 2,013,258 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 6 มีนาคม 2539 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท
ก่อนศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ โจทก์ถึงแก่กรรม นายธีรวุฒิยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 3 ใช้ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์ 6,000 บาท แทนโจทก์
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเมอซิเดสเบนซ์หมายเลขทะเบียน 8 ฮ – 5729 กรุงเทพมหานคร โดยซื้อมาจากจำเลยที่ 2 แล้วนำรถยนต์คันดังกล่าวไปประกันภัยกับจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยเมื่อปลายปี 2538 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัยหรือไม่ ที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.8.4 การประกันภัยไม่คุ้มครองการใช้รถโดยบุคคลของอู่ จำเลยที่ 1 รับรถมาซ่อมที่ศูนย์บริการของจำเลยที่ 2 แล้วพลิกคว่ำ ถือว่าจำเลยที่ 1 กระทำการแทนศูนย์บริการของจำเลยที่ 2 เป็นบุคคลของอู่ และเป็นการใช้รถโดยบุคคลของอู่แล้ว จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้น เห็นว่า ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 เกี่ยวกับการยกเว้นการใช้ตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.8.4 ที่ตกลงกันว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองการใช้โดยบุคคลของอู่ เมื่อรถยนต์ได้มอบให้อู่ทำการซ่อมนั้นโดยเจตนารมณ์ของคู่สัญญาในการทำสัญญาประกันภัย ประสงค์ให้มีการคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยตลอดระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยยังมีความเสี่ยงที่จะประสบอุบัติเหตุในการใช้รถจนกว่าจะหมดความเสี่ยงในการใช้รถแล้วโดยมอบรถให้แก่อู่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.8.4 ดังกล่าวจึงหมายถึงกรณีที่นำรถยนต์ที่เอาประกันภัยไปมอบให้แก่อู่เพื่อทำการซ่อมเรียบร้อยแล้ว ต่อมามีการใช้รถโดยบุคคลของอู่ กรณีนี้อู่หรือศูนย์บริการของจำเลยที่ 2 ยังมิได้รับมอบรถยนต์ของโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นเพียงพนักงานของจำเลยที่ 2 ในการไปขับรถยนต์ของโจทก์มามอบให้อู่หรือศูนย์บริการของจำเลยที่ 2 เท่านั้น จะถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้รถโดยบุคคลของอู่หรือของศูนย์บริการของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัย จำเลยที่ 3 หาได้รับการยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.8.4 ไม่
พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 3 ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 6,000 บาท แทนโจทก์.