คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/1549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 354 จะต้องได้ความว่าผู้กระทำการยักยอกได้กระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพและธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน มิใช่เป็นเรื่องความไว้วางใจกันเองระหว่างผู้เสียหายกับผู้กระทำความผิด
ฟ้องโจทก์เพียงแต่บรรยายอาชีพของจำเลยว่ารับราชการเป็นทหารอากาศเป็นอาชีพที่ไว้วางใจของประชาชน เป็นฟ้องที่ไม่แสดงให้เห็นว่ากิจการที่โจทก์มอบหมายให้จำเลยไปจัดการนั้นเกี่ยวข้องกับอาชีพรับราชการเป็นทหารอากาศของจำเลยอย่างไร พอที่จะให้เข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำความผิดในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจที่กล่าวในฟ้อง แต่กลับเข้าใจได้ว่าโจทก์มอบหมายให้จำเลยดำเนินการตามฟ้องเพราะมีความไว้วางใจกันเองโดยไม่เกี่ยวกับอาชีพหรือธุรกิจของจำเลย การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่โจทก์บรรยายฟ้องนั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมการพิจารณาพิพากษา
โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ รับราชการเป็นทหารอากาศเป็นอาชีพที่ไว้วางใจของประชาชน โจทก์ทั้งสองกับพวกได้มอบหมายให้จำเลยทั้งสองดำเนินการขอขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปยังหมู่ที่ ๓ ที่ ๔ โดยโจทก์กับพวกได้เฉลี่ยกันออกเงินค่าใช้จ่ายมอบให้จำเลยทั้งสองนำไปชำระแก่การไฟฟ้าจังหวัดปทุมธานี ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการปักเสาและหม้อแปลง ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง โจทก์กับพวกจึงมอบหมายให้จำเลยทั้งสองรับเงินส่วนที่ลดลงคืนจากการไฟฟ้าจังหวัดปทุมธานี จำเลยทั้งสองรับคืนมาแล้วยักยอกไว้เป็นประโยชน์ของตน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๕๓, ๓๕๔
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองสำนวน
โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๔ จะต้องได้ความว่าผู้กระทำการยักยอกได้กระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพและธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน มิใช่เป็นเรื่องความไว้วางใจกันเองระหว่างผู้เสียหายกับผู้กระทำความผิด ฟ้องของโจทก์ทั้งสองสำนวนเพียงแต่บรรยายอาชีพของจำเลยที่ ๑ ว่ารับราชการเป็นทหารอากาศ เป็นอาชีพที่ไว้วางใจของประชาชน มิได้บรรยายถึงอาชีพหรือธุรกิจของจำเลยที่ ๒ เป็นฟ้องที่ไม่แสดงให้เห็นว่ากิจการที่โจทก์ทั้งสองสำนวนกับพวกมอบหมายให้จำเลยทั้งสองไปจัดการนั้น เกี่ยวข้องกับอาชีพรับราชการทหารอากาศของจำเลยที่ ๑ และเกี่ยวข้องกับอาชีพหรือธุรกิจของจำเลยที่ ๒ อย่างไร พอให้เข้าใจได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจที่กล่าวในฟ้อง กลับเข้าใจได้ว่าโจทก์ทั้งสองสำนวนกับพวกมอบหมายให้จำเลยทั้งสองดำเนินการตามฟ้องเพราะมีความไว้วางใจกันเองโดยไม่เกี่ยวกับอาชีพหรือธุรกิจของจำเลยทั้งสอง การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำผิดตามที่โจทก์ทั้งสองสำนวนบรรยายฟ้องนั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำลงในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน
พิพากษายืน

Share