คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คพิพาทโดยเพียงแต่ลงลายมือชื่อแล้วให้โจทก์ยึดถือไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ที่จำเลยค้างชำระ ต่อมาโจทก์นำเช็คพิพาทไปกรอกข้อความเอาเอง โดยจำเลยมิได้ยินยอมหรือมอบหมายให้กระทำเช็คพิพาทย่อมไม่เป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย จำเลยจึงหาต้องรับผิดตามเช็คพิพาทไม่

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับ ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและสั่งจ่ายเงินฉบับละ 5,000 บาท โดยจำเลยจ่ายเช็คดังกล่าวเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ ครั้นถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย จึงขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยออกเช็ค 2 ฉบับตามฟ้อง โดยเพียงลงชื่อจำเลยไว้แต่มิได้กรอกจำนวนเงิน เพราะเป็นการให้ไว้เป็นประกันเงินที่จำเลยเอามาจากโจทก์เพื่อไปออกดอกเบี้ยในราคาสูงและจำเลยมีผลประโยชน์บางส่วนในดอกเบี้ย จำเลยนำส่งเงินที่เอามาจากโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาเกิดผิดใจกัน โจทก์จึงกรอกจำนวนเงินลงในเช็คเพื่อดำเนินคดีกับจำเลย เช็คทั้งสองฉบับไม่มีผลเป็นตั๋วเงิน ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยเพียงแต่ลงชื่อไว้ในเช็คพิพาทเท่านั้น แล้วต่อมาโจทก์กรอกจำนวนเงินลงในเช็ค เช็คพิพาทจึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยเพียงแต่ลงชื่อในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็ครายพิพาท และมีวันเดือนปีซึ่งจำเลยประทับลงไว้ล่วงหน้า (เฉพาะวันที่) ก็เป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วและจำเลยเป็นผู้ขอให้โจทก์ช่วยเขียนจำนวนเงินลงในเช็ค

ศาลฎีกาเห็นว่า “ลำพังแต่เช็คที่มีลายมือชื่อจำเลยและมีวันที่ที่ออกเช็ค ส่วนรายการอื่น ๆ ไม่มีอีกเลยแล้ว เช็คนั้นก็ไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีรายการครบถ้วนตาม มาตรา 988 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และผู้ทรงเช็คจะต่อเติมข้อความอะไรลงในเช็คตามชอบใจโดยมิได้รับมอบหมายจากผู้สั่งจ่ายก็ไม่ได้ เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น…” ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า “จำเลยออกเช็คพิพาท 2 ฉบับ โดยลงชื่อไว้ลอย ๆ เพื่อให้โจทก์ไว้เป็นประกันการที่โจทก์ไปกรอกข้อความเอานั้น มิได้เป็นไปโดยจำเลยขอร้องให้กรอกลงไปเช็ครายพิพาททั้งสองฉบับจึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายดังที่ได้วินิจฉัยมาแล้ว…”

พิพากษายืน

Share