แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การถอนฟ้องนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติ ถึงคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ว่าให้ถอนคดีได้เสมอไป ไม่ว่าผู้เสียหายหรืออัยการเป็นโจทก์ การถอนฟ้องต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ที่ให้ถอนฟ้องได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัวจะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ ในกรณีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงถอนฟ้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันเบิกความเท็จในข้อสำคัญแห่งคดี ในการพิจารณาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 41/2509 ของศาลแพ่งขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180, 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ให้รับประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตามมาตรา 177 และจำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 180 อีกกระทงหนึ่ง ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 177 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกจำเลยที่ 1 หนึ่งปีจำคุกจำเลยที่ 2 แปดเดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ได้ทำคำพิพากษาส่งไปศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงวันนัดโจทก์จำเลยไปศาลพร้อมกัน โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองได้ใช้ค่าเสียหายให้ 20,000 บาท โจทก์ไม่ติดใจว่ากล่าวเอาความแก่จำเลยต่อไป
ศาลชั้นต้นส่งคำร้องของโจทก์ไปศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งว่าได้ทำคำพิพากษาแล้วให้รวมสำนวนไว้ ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังในวันเดียวกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกาว่าก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ว่า ไม่ติดใจว่ากล่าวแก่จำเลยทั้งสองต่อไป เป็นการขอถอนคดีก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงเป็นการขอถอนคดีก่อนมีคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนคดีได้ เพราะเป็นคดีฟ้องกันเป็นส่วนตัว และขอให้รอการลงโทษหรือปรับ
ศาลฎีกาเห็นว่า การถอนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 นี้ ให้ถอนได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัว จะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ แต่คดีนี้มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จึงถอนฟ้องไม่ได้ และที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษหรือปรับนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยฎีกามิได้
พิพากษายกฎีกาจำเลย