คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในการขอเลื่อนคดี หากศาลมีความสงสัยว่าจำเลยป่วยเจ็บจริงหรือไม่ และอาการที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะร้ายแรงถึงกับจะไม่สามารถมาศาลได้หรือไม่ ศาลมีอำนาจสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลไปทำการตรวจดูว่าจำเลยมีอาการป่วยเจ็บหรือไม่เพียงใด โดยไม่จำต้องตั้งแพทย์ไปตรวจด้วย ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อกฎหมาย เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลฎีกาเพียง 200 บาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากที่ดินและบ้านคืนโจทก์ มิฉะนั้นให้จำเลยคืนเงิน 52,000 บาทที่รับไว้กับเงิน 12,000 บาท ที่จำเลยยังชำระตามสัญญาขายฝากไม่ครบรวมเป็นเงิน 64,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากคืนภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันทำสัญญาจึงหมดสิทธิไถ่ถอน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่ 10495 ตำบลอ่างทองอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ให้แก่โจทก์ มิฉะนั้นให้จำเลยคืนเงิน 52,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อ 4 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาพิพากษาว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 41 วรรคแรก บัญญัติว่า “ถ้ามีการขอเลื่อนการนั่งพิจารณาโดยอ้างว่าตัวความ ผู้แทนทนายความ พยานหรือบุคคลอื่นที่ถูกเรียกให้มาศาลไม่สามารถมาศาลได้เพราะป่วยเจ็บ เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอฝ่ายเดียว ศาลจะมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานไปทำการตรวจก็ได้ และถ้าสามารถหาแพทย์ได้ก็ให้ตั้งแพทย์ไปตรวจด้วย ถ้าผู้ที่ศาลตั้งให้ไปตรวจได้รายงานโดยสาบานตนหรือกล่าวคำปฏิญาณแล้ว และศาลเชื่อว่าอาการของผู้ที่อ้างว่าป่วยนั้นไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการขาดนัดหรือการไม่มาศาลของบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้น แล้วแต่กรณี” ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นว่าในกรณีที่จำเลยขอเลื่อนการนั่งพิจารณาสืบพยานจำเลยออกไปโดยอ้างว่าตัวจำเลยป่วยเจ็บ หากศาลมีความสงสัยว่าจำเลยจะป่วยเจ็บจริงหรือไม่ และอาการที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะร้ายแรงถึงกับจะไม่สามารถมาศาลได้หรือไม่ ศาลมีอำนาจสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลไปทำการตรวจดูว่าจำเลยมีอาการป่วยเจ็บหรือไม่เพียงใด โดยไม่จำต้องตั้งแพทย์ไปตรวจด้วยเว้นแต่สามารถหาแพทย์ได้ ศาลจึงจะตั้งแพทย์ให้ไปตรวจอาการของจำเลยร่วมกับเจ้าพนักงานศาล ดังนั้นเมื่อฝ่ายจำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยออกไปโดยอ้างว่าตัวจำเลยป่วยเจ็บและศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลไปตรวจดูอาการของจำเลยแล้วให้รายงานต่อศาล แม้เจ้าพนักงานศาลมิใช่แพทย์แต่เจ้าพนักงานศาลผู้ที่ไปตรวจดูอาการของจำเลยได้รายงานต่อศาลโดยสาบานตัวแล้ว และศาลชั้นต้นเชื่อว่าอาการป่วยของจำเลยไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ ทั้งปรากฏว่าจำเลยเคยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมา 2 นัดแล้ว เช่นนี้ การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานจำเลยออกไปจึงชอบด้วยกระบวนพิจารณาแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายซึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาไว้อย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงเสียเกินมา”
พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่เสียเกินมาให้แก่จำเลย

Share