คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องแย้งก็เป็นฟ้องอย่างหนึ่งที่จะต้องเข้าลักษณะทั่วไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 คือตามฟ้องนั้นได้มีสิทธิและหน้าที่ทางแพ่งโต้แย้งกันอยู่พร้อมบริบูรณ์แล้ว จึงจะฟ้องกันได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกแถวโจทก์ โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้ศาลบังคับขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าจำเลยซ่อมแซมห้องเช่า หากจำเลยต้องออกจากห้องเช่า โจทก์ต้องใช้เงินค่าซ่อมให้โจทก์จึงขอฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยหาได้มีสิทธิเป็นเจ้าหนี้อยู่พร้อมบริบูรณ์ในขณะที่ยื่นฟ้องแย้งเข้ามาไม่ เป็นหนี้ที่หากจะถือว่ามีได้ก็เป็นหนี้ที่อาจมีในภายหน้าเท่านั้นยังไม่ใช่หนี้ที่พร้อมบริบูรณ์แล้วสำหรับยื่นฟ้องต่อศาลขอให้บังคับคดีได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้งจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวโจทก์ทำการค้า โจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว ขอให้ศาลบังคับขับไล่จำเลยและบริวารให้ส่งคืนตึกและใช้ค่าเสียหาย ฯลฯ

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง จำเลยเช่าแล้วได้ซ่อมแซมห้องเช่า คือ ซ่อมพื้น ทาสีห้อง สิ้นเงินไป 6,000 บาท หากจำเลยต้องออกจากห้องเช่าโจทก์ต้องใช้เงินดังกล่าวให้จำเลย จึงขอฟ้องแย้ง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องแย้ง โดยว่าเป็นฟ้องมีเงื่อนไขต่อเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยออกจากห้องเช่า ไม่เข้าลักษณะเป็นฟ้องแย้ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจะถือเอาหลักเพียงว่า ถ้าฟ้องเกี่ยวเนื่องกันที่สามารถรวมพิจารณากันไปได้แล้ว ก็ต้องรับเอาไว้เป็นฟ้องแย้งนั้นหาเป็นการถูกต้องไม่ เพราะฟ้องแย้งก็เป็นฟ้องอย่างหนึ่งที่จะต้องเข้าลักษณะทั่วไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 คือ ตามฟ้องนั้นได้มีสิทธิและหน้าที่ทางแพ่งโต้แย้งกันอยู่พร้อมบริบูรณ์แล้วจึงจะฟ้องกันได้ สำหรับในเรื่องของจำเลยรายนี้ จำเลยยังหาได้มีสิทธิเป็นเจ้าหนี้อยู่พร้อมบริบูรณ์แล้วในขณะที่ยื่นฟ้องแย้งเข้ามานั้นไม่ เป็นหนี้ที่หากจะถือว่ามีได้ ก็เป็นหนี้ที่อาจมีในภายหน้าเท่านั้นยังไม่ใช่เป็นหนี้ที่พร้อมบริบูรณ์แล้วสำหรับยื่นฟ้องต่อศาลขอให้บังคับคดีได้

พิพากษายืน

Share