แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 57 ผู้สมัครจะคัดค้านการประกาศผลของการเลือกตั้งจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วันนับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องสอดคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งเข้ามาในคดี เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่เทศบาลประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ผู้ร้องสอดย่อมไม่มีสิทธิที่จะคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลได้
ย่อยาว
ผู้ร้องทั้งห้ายื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2533ระหว่างเวลา 8 ถึง 15 นาฬิกา เทศบาลเมืองกำแพงเพชรได้จัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร จำนวน 18 คน ผู้ร้องที่ 1 ถึงที่ 6 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรของกลุ่ม “ร่วมไทยพัฒนา” ได้เครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 20, 22, 23, 26, 28 และ 27 ตามลำดับเมื่อระหว่างวันที่ 23 กันยายน 2533 เวลา 8 นาฬิกาถึงวันที่24 กันยายน 2533 เวลา 3 นาฬิกา กรรมการตรวจคะแนนในหน่วยเลือกตั้งทั้ง 17 หน่วย ได้ร่วมกันจงใจนับบัตรเลือกตั้งให้ผิดไปจากความเป็นจริงเพื่อกรอกคะแนนให้หมายเลข 1 ถึง 18 ชนะการเลือกตั้งโดยคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ทำให้ผู้ร้องทั้งหกไม่ได้รับเลือกตั้งจึงขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนแล้วสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่อีกครั้งหนึ่งในทุกหน่วยเลือกตั้งโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ศาลแต่งตั้งขึ้น เมื่อผลการนับคะแนนใหม่เป็นประการใดแล้ว ขอให้มีคำสั่งว่าผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับการเลือกตั้งโดยชอบ และสั่งว่าผู้ใดได้รับการเลือกตั้งโดยชอบแทนตำแหน่งที่ว่างลงหรือมิฉะนั้นขอให้สั่งว่าไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดได้รับการเลือกตั้งโดยชอบและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายในกำหนดเวลาที่เห็นสมควรต่อไป
ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ยื่นคำคัดค้านว่า คำร้องของผู้ร้องทั้งหกเคลือบคลุม เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 17 หน่วยกระทำโดยสุจริต ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่ามีการนับบัตรผิดพลาดนั้น ผู้ร้องทั้งหกไม่ได้ทักท้วงคัดค้านไว้ ขอให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านที่ 7 ยื่นคำคัดค้านว่ากรรมการตรวจคะแนน เจ้าหน้าที่คะแนน เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งคณะกรรมการตรวจคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งได้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลทุกประการคำร้องของผู้ร้องทั้งหกเคลือบคลุม ขอให้ยกคำร้อง
ก่อนศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2533 ขอเข้าเป็นคู่ความร่วมกับผู้ร้องทั้งหกโดยถือเอาคำร้องของผู้ร้องทั้งหกรวมทั้งผลจากการพิจารณาของศาลให้ผูกพันผู้ร้องสอดทั้งสามด้วย และขอให้ศาลสั่งว่าผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับการเลือกตั้งโดยชอบ หรือผู้ใดเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งโดยชอบแทนที่ผู้ได้รับการประกาศจากเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ผู้ร้องทั้งหกและผู้คัดค้านที่ 7 ยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องสอดดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่ผู้ร้องสอดทั้งสามยื่นคำร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ก็เนื่องจากผู้ร้องสอดทั้งสามเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง นับว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียและยื่นคำร้องเข้ามาก่อนมีคำสั่งหรือคำพิพากษา จึงอนุญาตให้ผู้ร้องสอดทั้งสามเข้ามาเป็นคู่ความร่วมกับผู้ร้องทั้งหาได้ตามขอ ส่วนที่ผู้ร้องสอดขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับเลือกตั้งโดยชอบ และผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้ได้เลือกตั้งโดยชอบแทนที่นั้น การยื่นคำร้องขอดังกล่าวนี้เป็นการคัดค้านการเลือกตั้งซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช 2582 ผู้ร้องสอดจะต้องยื่นคำร้องภายใน 15 วันนับแต่ประกาศผลการเลือกตั้งและผู้ร้องสอดจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวนั้น ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ผู้ร้องสอดจะอาศัยสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57ซึ่งเป็นกฎหมายทั่วไปหาได้ไม่ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องสอดของผู้ร้องสอดทั้งสามในส่วนนี้เสีย
ผู้ร้องสอดทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องสอดทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า เทศบาลเมืองกำแพงเพชรได้ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเรียงตามลำดับคะแนนโดยมีผู้ได้รับเลือกตั้งจำนวน 18 คน ตามคำร้องสอดอ้างว่าผู้ร้องสอดทั้งสามได้รับคะแนนในการเลือกตั้งในลำดับที่ 19, 20 และ 21 ซึ่งมีคะแนนน้อยกว่าผู้ได้รับเลือกตั้งลำดับที่ 18 ไม่กี่คะแนนและคะแนนของผู้ร้องสอดทั้งสามยังสูงกว่าผู้ร้องทั้งหก ซึ่งได้รับคะแนนในลำดับที่ 22 ถึง 27 จึงขอเข้าเป็นคู่ความร่วมกับผู้ร้องทั้งหก ผลแห่งคดีเป็นประการใดขอให้ผูกพันผู้ร้องสอดด้วย และขอให้ศาลสั่งว่าผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับการเลือกตั้งโดยชอบและหรือสั่งว่าผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบแทนที่ตามคำขอท้ายคำร้องของผู้ร้องทั้งหกแม้ทนายของผู้ร้องสอดทั้งสามจะแถลงว่ายื่นคำร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 การที่ผู้ร้องสอดทั้งสามฎีกาว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ร้องสอดทั้งสามเข้ามาเป็นคู่ความร่วมในคดีได้แล้ว ถ้าศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป หากผลปรากฏว่ามีผู้ใดไม่ได้รับการเลือกตั้งโดยชอบและผลของการนับคะแนนทำให้คะแนนของผู้ร้องสอดทั้งสามดีขึ้นก็สมควรจะได้รับการประกาศว่าเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งแทนที่แสดงว่าผู้ร้องสอดทั้งสามเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบเช่นเดียวกับผู้ร้องทั้งหก ผู้ร้องสอดทั้งสามจึงประสงค์จะเข้ามาในคดีเพื่อคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของเทศบาลเมืองกำแพงเพชรลงวันที่ 24 กันยายน 2533 ตามเอกสารท้ายคำคัดค้าน จ.7 นั่นเอง ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช 2482 มาตรา 57 ผู้สมัครที่จะคัดค้านการประกาศผลของการเลือกตั้งจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งแต่ปรากฏว่าผู้ร้องสอดทั้งสามได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่เทศบาลประกาศผลการเลือกตั้งแล้วผู้ร้องสอดทั้งสามจึงไม่มีสิทธิที่จะคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรดังกล่าวได้
พิพากษายืน