คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยฐานชิงทรัพย์ไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์ด้วยจริงดังที่ศาลชั้นต้นลงโทษมา แต่ได้ลงโทษด้วยบทหนักฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานลดแล้วคงจำคุก 13 ปี 4 เดือน ไม่ระบุว่า โทษฐานชิงทรัพย์มากน้อยเท่าใด ดังนี้ จำเลยย่อมฎีการวมตลอดถึงความผิดฐานชิงทรัพย์ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2503)

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันชิงทรัพย์ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานสมคบกันชิงทรัพย์ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ ประกอบกับมาตรา ๘๓ ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๔ ปี จำเลยอายุยังไม่เกิน ๒๐ ปี ลดมาตรา ส่วนโทษให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลย ๒ ปี ๘ เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า นอกจากจำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์แล้ว จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๒), ๘๐, ๘๓, ๙๑, ๑๓๘ ด้วย แต่ความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเป็นความผิดกระทงหนักที่สุด จึงลงโทษเฉพาะกระทงฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตามมาตรา ๒๘๙ (๒), ๘๐, ๘๓, ๙๑, ๕๒ วางโทษประหารชีวิต ลดฐานพยายามแล้วเหลือโทษจำคุก ๒๐ ปี แต่จำเลยอายุยังไม่เกิน ๒๐ ปี ลดตามาตรา ๗๖ อีก ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลย ๑๓ ปี ๔ เดือน
จำเลยฎีกา
คดีมีข้อกฎหมายมาสู่ศาลฎีกาว่า จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดฐานชิงทรัพย์ได้หรือไม่
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยฐานชิงทรัพย์ไม่เกิน ๕ ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์ด้วยจริงดังที่ศาลชั้นต้นลงโทษมา แต่ได้ลงโทษด้วยบทหนักฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานลดแล้วคงจำคุก ๑๓ ปี ๔ เดือน ไม่ระบุว่า โทษฐานชิงทรัพย์มากน้อยเท่าใด ดังนี้ จำเลยย่อมฎีการวมตลอดถึงความผิดฐานชิงทรัพย์ได้

Share