แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิที่จะใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามที่กฎหมายอื่นคุ้มครองขึ้นสู้คดี จึงต้องวินิจฉัยคดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะเช่าทรัพย์ และเมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็บังคับโจทก์ต้องให้จำเลยใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย จำเลยสู้ว่าเช่าก็เท่ากับรับว่าจำเลยอยู่หรือใช้ทรัพย์นั้นโดยโจทก์ยินยอม เมื่อสัญญาเช่าไม่มีหรือบังคับไม่ได้ ก็ไม่มีข้อผูกพันที่ต้องยินยอม โจทก์จะไม่ยอมให้จำเลยใช้ทรัพย์ต่อไปก็ได้ เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่โจทก์ให้อาศัย และเรียกค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเช่าโจทก์ไม่เสียหาย หากเสียหายก็ไม่เกินเดือนละ ๕๖ บาท และไม่มีอำนาจฟ้อง
ชั้นพิจารณา จำเลยแถลงรับว่าการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์แถลงรับว่าเสียหายเพียงเท่าที่จำเลยต่อสู้
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมิได้อ้างสิทธิที่จะใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามที่กฎหมายอื่นคุ้มครองจึงต้องวินิจฉัยคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะเช่าทรัพย์ เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้จะมีการเช่ากันจริงก็บังคับโจทก์ต้องให้จำเลยใช้ทรัพย์ที่เช่าไม่ได้ ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ต้องนำสืบว่าจำเลยอาศัยตามฟ้องนั้น โจทก์ไม่จำต้องนำสืบอะไรอีก เพราะการอาศัยซึ่งมิได้จดทะเบียน เป็นแต่เพียงอยู่โดยได้รับความยินยอมจากโจทก์ มิใช่จำเลยมีสิทธิที่จะอยู่เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไป
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย