แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องคัดค้านได้ร่วมก่อตั้งบริษัท อ. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท ม. โดยผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้ถือหุ้น การที่ผู้ร้องคัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดไม่ดำเนินการใดๆ กับบริษัท ม.ซึ่งค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากคำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อเครือญาติและตนเองในบริษัทดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อผลประโยชน์ของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทล ถือได้ว่าประโยชน์ได้เสียของนิติบุคคลขัดกับประโยชน์ได้เสียของผู้แทนของนิติบุคคลในเรื่องดังกล่าว เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับแก่กรณีดังกล่าวได้ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีเช่นนี้ จึงต้องวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 4 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมในอาคารชุดย่อมร้องขอให้ศาลแต่งตั้ง ธ. เป็นผู้แทนเฉพาะการเพื่อดำเนินการในเรื่องการทวงถามค่าใช้จ่ายส่วนกลางตลอดจนการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องตามข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทลได้ ตามป.พ.พ. มาตรา 75
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งนายธรรมนูญเป็นผู้แทนเฉพาะการของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทล โดยให้มีอำนาจทวงถาม งดให้บริการสาธารณูปโภคและฟ้องร้องบังคับคดีแก่เจ้าของห้องชุดผู้ค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวโดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามข้อบังคับและตามกฎหมาย
ผู้ร้องคัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ศาลยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง (ที่ถูก พิพากษา) ให้ยกคำร้อง ให้ผู้ร้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้คัดค้านโดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน แต่ให้ผู้ร้องใช้ค่าทนายความในศาลชั้นต้น 3,000 บาท แทนผู้คัดค้าน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า บริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด เป็นเจ้าของโครงการและเจ้าของร่วมในอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทล ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอาคารชุด นายวิจิตรผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมในอาคารชุดดังกล่าวด้วยรายหนึ่ง เมื่อปี 2541 ที่ประชุมใหญ่สามัญเจ้าของร่วมมีมติเลือกนายผดุงศักดิ์ผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้จัดการตามข้อบังคับของนิติบุคคลดังกล่าวเจ้าของร่วมแต่ละรายต้องออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการบริหารและดูแลทรัพย์สินส่วนกลาง ปรากฏว่าบริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด และเจ้าของร่วมรายอื่นติดค้างค่าใช้จ่ายส่วนกลางเกิน 25,000 บาท แต่ผู้ร้องคัดค้านไม่ดำเนินการทวงถามและงดให้บริการสาธารณูปโภคกับฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายดังกล่าวตามมติของคณะกรรมการ
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า การที่ผู้ร้องคัดค้านไม่ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการเป็นกรณีที่ประโยชน์ได้เสียของนิติบุคคลกับผู้แทนของนิติบุคคลขัดกัน เป็นเหตุให้ไม่มีผู้แทนนิติบุคคลเหลืออยู่ จึงชอบที่ผู้ร้องจะให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนเฉพาะการเพื่อดำเนินการดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 หรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องคัดค้านกับบริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด ตามที่ได้ความจากผู้ร้องและนางเยาวดี พยานผู้ร้อง โดยผู้ร้องคัดค้านไม่โต้แย้งว่า นายวิชิต และนางอรวรรณ พี่เขยและพี่สาวของผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวตามสำเนาหนังสือบริคณฑ์สนธิ และนายวิชิตยังร่วมกับผู้ร้องคัดค้านก่อตั้งบริษัทเอสเตท โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด โดยนายวิชิตเป็นกรรมการ และผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้ถือหุ้น จะเห็นได้ว่าเหตุที่ผู้ร้องคัดค้านไม่ดำเนินการใด ๆ กับบริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด ซึ่งค้างชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากคำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อเครือญาติและตนเองในบริษัทดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อผลประโยชน์ของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ดพาราไดซ์ คอนโดเทล ถือได้ว่าประโยชน์ได้เสียของนิติบุคคลขัดกับประโยชน์ได้เสียของผู้แทนของนิติบุคคลในเรื่องดังกล่าว และเนื่องจากคะแนนเสียงของบริษัท มิลฟอร์ดพาราไดซ์ จำกัด ในนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวมีเกินกึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงทั้งหมดของเจ้าของร่วม ดังที่ได้ความจากนายธรรมนูญพยานผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมรายหนึ่งโดยผู้ร้องคัดค้านไม่โต้แย้งว่า คะแนนเสียงในการลงมติของบริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการจะมีประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ของเจ้าของร่วมทั้งหมด ในกรณีจะเปลี่ยนแปลงผู้จัดการ หากบริษัทดังกล่าวไม่ออกเสียงหรือไม่สนับสนุนก็ไม่อาจดำเนินการได้ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์คอนโดเทล ในข้อ 40 และ 40.2 หากจะปล่อยให้สภาพการณ์เป็นเช่นนั้นต่อไป ย่อมไม่เป็นธรรมแก่บรรดาเจ้าของร่วมอื่นที่ต้องแบกรับภาระในค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับแก่กรณีดังกล่าวได้ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีเช่นนี้ จึงต้องวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ซึ่งได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 ถึง 75 เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงแก่กรณีในคดีนี้ โดยมาตรา 74 บัญญัติว่า “ถ้าประโยชน์ได้เสียของนิติบุคคลขัดกับประโยชน์ได้เสียของผู้แทนของนิติบุคคลในการอันใด ผู้แทนของนิติบุคคลนั้นจะเป็นผู้แทนในการอันนั้นไม่ได้” มาตรา 75 บัญญัติว่า “ถ้ากรณีตามมาตรา 74 เป็นเหตุให้ไม่มีผู้แทนของนิติบุคคลเหลืออยู่….ให้นำความในมาตรา 73 มาใช้บังคับเพื่อตั้งผู้แทนเฉพาะการโดยอนุโลม” กล่าวคือ ให้ถือว่าผู้แทนของนิติบุคคลนั้นว่างลงตามมาตรา 73 ซึ่งให้ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาลเพื่อแต่งตั้งผู้แทนดังกล่าวได้ ดังนี้ ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมในอาคารชุดย่อมร้องขอให้ศาลแต่งตั้งนายธรรมนูญเป็นผู้แทนเฉพาะการเพื่อดำเนินการในเรื่องการทวงถามค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ตลอดจนการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องตามข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทล ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 เมื่อไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถหรือเป็นบุคคลล้มละลายหรือมีความประพฤติไม่เหมาะสมประการใด จึงมีเหตุสมควรตั้งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนเฉพาะการ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ตั้งนายธรรมนูญเป็นผู้แทนเฉพาะการให้ดำเนินการทวงถาม งดให้บริการสาธารณูปโภคและฟ้องร้องบังคับคดีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่บริษัท มิลฟอร์ด พาราไดซ์ จำกัด และเจ้าของร่วมอื่นที่ติดค้างชำระอยู่แก่นิติบุคคลอาคารชุดมิลฟอร์ด พาราไดซ์ คอนโดเทล โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้เช่นเดียวกับผู้จัดการตามข้อบังคับของนิติบุคคลดังกล่าวค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ