แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยฎีกาว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบเพราะต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาได้และเป็นเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ทั้ง สอง ตกลง จะขาย ที่ดิน ตาม หนังสือ รับรองการ ทำประโยชน์ (น.ส. 3) เลขที่ 91 ให้ โจทก์ ใน ราคา 3,000 บาท โจทก์ได้ ชำระ ราคา ให้ จำเลย ทั้ง สอง และ จำเลย ทั้ง สอง ได้ มอบ ที่ดิน ให้ โจทก์ เข้าครอบครอง ทำประโยชน์ และ ตกลง จะ จดทะเบียน โอน ที่ดิน ให้ โจทก์ต่อมา จำเลย ทั้ง สอง ผิดสัญญา ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ไป จดทะเบียนโอน ขาย ที่ดิน แปลง ดังกล่าว ให้ โจทก์ หาก จำเลย ทั้ง สอง ฝ่าฝืน ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา
จำเลย ที่ 1 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 1 ไม่เคย ทำ สัญญา ขาย ที่ดินพิพาท ให้ โจทก์ และ ไม่เคย ได้รับ เงิน ค่าซื้อ ที่ดินพิพาท จาก โจทก์ขอให้ ยกฟ้อง
ระหว่าง การ ส่งหมาย เรียก และ สำเนา คำฟ้อง ให้ จำเลย ที่ 2 โจทก์ขอ ถอนฟ้อง จำเลย ที่ 2 อ้างว่า จำเลย ที่ 2 ถึงแก่กรรม โจทก์ ยัง สืบหาทายาท ไม่ได้ ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง อนุญาต แล้ว ดำเนินคดี ระหว่าง โจทก์กับ จำเลย ที่ 1 ต่อไป ระหว่าง การ สืบพยานโจทก์ ความ ปรากฏว่าจำเลย ที่ 2 ถึงแก่กรรม ไป ตั้งแต่ ก่อน ที่ โจทก์ จะ ยื่นฟ้อง คดี นี้ แล้วศาลชั้นต้น จึง มี คำสั่ง เพิกถอน คำสั่ง ที่ ให้ รับฟ้อง จำเลย ที่ 2 กับคำสั่ง อนุญาต ให้ โจทก์ ถอนฟ้อง จำเลย ที่ 2 และ มี คำสั่ง ใหม่ เป็น ว่าไม่รับฟ้อง เฉพาะ ที่ เกี่ยวกับ จำเลย ที่ 2
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ จำเลย ที่ 1 จดทะเบียน โอนขาย ที่ดินพิพาท ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) สารบบ เล่มเลขที่ 91 หมู่ ที่ 8 ตำบล หัวเรือ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัด อุบลราชธานี เฉพาะ ส่วน ของ จำเลย ที่ 1 ให้ โจทก์ หาก จำเลย ที่ 1ฝ่าฝืน ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา
จำเลย ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “เห็นสมควร วินิจฉัย ปัญหา ตาม คำ แก้ ฎีกาของ โจทก์ เสีย ก่อน ว่า จำเลย ที่ 1 เสีย ค่าขึ้นศาล ชั้นฎีกา ครบถ้วนหรือไม่ และ ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1 ใน ข้อกฎหมาย เป็น สาระ แก่ คดี อันควร ได้รับ การ วินิจฉัย หรือไม่ ทั้ง เป็น ข้อกฎหมาย ที่ ไม่ได้ ยกขึ้น ว่า กัน มาแล้ว ใน ชั้นอุทธรณ์ แล้ว จะ ยกขึ้น ฎีกา ได้ หรือไม่ เห็นว่า จำเลย ที่ 1ฎีกา ว่า คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 ไม่ชอบ เพราะ ต้องห้าม อุทธรณ์ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่ง แม้ จำเลย ที่ 1 จะ ขอให้ พิพากษากลับ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 1 โดย พิพากษายืน ตาม ศาลชั้นต้น ก็ ตาม แต่ การ พิจารณาว่าคดี ต้องห้าม อุทธรณ์ หรือไม่ ซึ่ง ไม่ว่า ผล จะ เป็น ประการใด ก็ เป็น แต่เพียง ชี้ขาด ว่า คำพิพากษา ชอบ ด้วย กฎหมาย แล้ว หรือ ถ้า ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย ก็ ต้อง ยก คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 และ ยก ฎีกา นั้น เสีย โดยไม่ต้อง วินิจฉัย ใน ประเด็น แห่ง คดี ดังนั้น ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1จึง เป็น คดี ที่ มี คำขอ ให้ ปลดเปลื้อง ทุกข์ อัน ไม่อาจ คำนวณ เป็น ราคา ได้จำเลย ที่ 1 เสีย ค่าขึ้นศาล 200 บาท ตาม ตาราง 1(2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึง ถูกต้อง ครบถ้วน แล้ว และ คดีต้องห้าม อุทธรณ์ หรือไม่ เป็น เรื่อง อำนาจฟ้อง ซึ่ง เป็น ข้อกฎหมาย อันเกี่ยว ด้วย ความสงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน เป็น สาระ แก่ คดี อันควรได้รับ การ วินิจฉัย และ แม้ ไม่ได้ ยกขึ้น ว่า กัน มา แล้ว โดยชอบ ในศาลอุทธรณ์ ก็ เป็น ฎีกา ที่ชอบ ต้อง วินิจฉัย ให้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง ”
พิพากษายืน