คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จดเติมเดือนและปีที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คโดยพลการ ไม่ได้รับการรู้เห็นยินยอมจากผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก่อน เช่นนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำโดยไม่สุจริตแล้ว การกระทำของจำเลยยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสาร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2512 เวลากลางวัน จำเลยปลอมเช็คธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาตลาดพลูฉบับหมายเลขที่ ยี.243598 อันเป็นเอกสารสิทธิและตั๋วเงินซึ่งนายเล่งชัว แซ่ซิ้ม เป็นผู้สั่งจ่าย ที่มอบให้จำเลยไว้เป็นประกันเงินกู้ โดยจำเลยเขียนเติมข้อความ เดือนและปีของวันออกเช็คที่เว้นว่างลงแต่วันที่ไว้ให้เป็นวันที่ 15 เดือน 6 ปี 2512 โดยผู้สั่งจ่ายกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้สลักหลังมิได้รู้เห็นยินยอมให้กระทำในพฤติการณ์ที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แล้ววันนั้นเองจำเลยได้นำเช็คที่จำเลยปลอมนั้นไปใช้นำเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เหตุเกิดที่ตำบลบางยี่เรือ อำเภอธนบุรี จังหวัดธนบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 266, 268, 90 และ 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาปลอมแปลงเอกสาร ไม่มีมูลเป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้สั่งประทับฟ้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า จำเลยเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยได้เขียนเลขเดือนและปีเติมลงในช่องเดือนและปีซึ่งเว้นว่างไว้ในเช็คฉบับที่นายเล่งซัวพี่ชายโจทก์มอบไว้เป็นประกันเงินกู้มีโจทก์เป็นผู้สลักหลังเช็ค ทำให้โจทก์เสียหาย เพราะผิดข้อตกลงระหว่างนายเล่งซัวกับจำเลยนั้น หากเป็นความจริงตามที่โจทก์นำสืบ ก็เป็นเพียงผิดข้อตกลงระหว่างจำเลยกับนายเล่งซัวเท่านั้น หาใช่โจทก์ไม่ โจทก์ก็ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยกระทำการโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด ทั้งเช็คที่นายเล่งซัวมอบไว้เป็นประกันเงินกู้นั้น ก็มีความหมายว่า ออกเช็คให้โดยเจตนาให้ผู้พันชำระเงินตามกฎหมายอยู่แล้ว ขณะที่จำเลยเติมเลขเดือนและปีในเช็คนั้น ก็ไม่ปรากฏว่าถึงกำหนดเวลาชำระหนี้เงินกู้ตามที่นายเล่งซัวออกเช็คไว้แล้วหรือไม่ ไม่ได้ความว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ทั้งจำเลยในฐานะผู้ทรง ย่อมมีอำนาจที่จะจดวันเดือนปีที่ถูกต้องลงในเช็คได้ ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบด้วยมาตรา 989 ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 วรรคสุดท้าย ซึ่งบัญญัติว่า “ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่งคนใดทำการโดยสุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้” นั้น เห็นได้ว่าเป็นบทบัญญัติให้ผู้ทรงโดยชอบมีอำนาจกระทำได้โดยพลการโดยจะต้องทำการโดยสุจริตจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลง เมื่อมาตรา 910 วรรคสุดท้ายให้อำนาจแก่ผู้ทรงโดยชอบที่จะจดวันถูกต้องแท้จริงลงได้ไว้เช่นนี้แม้จำเลยจะกระทำไปโดยพลการ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำโดยไม่สุจริตแล้ว ก็หามีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดฐานปลอมเอกสารดังฟ้องไม่ คดีโจทก์จึงไม่มีมูล ในทางอาญาที่จะรับไว้พิจารณา ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสียนั้น ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share