แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
จำเลยค้ำประกัน ช. ในขณะที่ ช. มีตำแหน่งผู้ช่วยจัดโชว์สินค้าตามห้างซึ่งไม่เกี่ยวกับการขายสินค้าของโจทก์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเงินอันเนื่องมาจากการขายสินค้าซึ่งตามสภาพงานจะต้องมีทั้งสินค้าใหม่ๆ เงินที่ขายสินค้าหมุนเวียนผ่านมือไป อันมีลักษณะการทำงานแตกต่างไปจากการช่วยจัดโชว์สินค้าอย่างสิ้นเชิง งานตำแหน่งพนักงานขายสินค้าจึงถือได้ว่าอยู่นอกเหนือเจตนาและความมุ่งหมายจะผูกพันตนของจำเลยตามสัญญาค้ำประกันในขณะเข้าทำสัญญาค้ำประกัน การที่ ช. ได้กระทำความเสียหายแก่โจทก์ขณะอยู่ในตำแหน่งพนักงานขายสินค้าของโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของนายชลทิศชำระเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่โจทก์ตรวจพบการกระทำความผิดของนายชลทิศ คือวันที่ 1 ธันวาคม 2540 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องเป็นจำนวน 36,812.68 บาท
จำเลยให้การว่า จำเลยค้ำประกันการทำงานของนายชลทิศ ในตำแหน่งผู้ช่วยจัดโชว์สินค้าตามห้างเท่านั้น เมื่อโจทก์เปลี่ยนแปลงตำแหน่งหน้าที่การทำงานของนายชลทิศ ไปเป็นพนักงานขายสินค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับการเงินโดยจำเลยไม่เคยทราบหรือให้ความยินยอม สัญญาค้ำประกันจึงเป็นอันระงับไป จำเลยหาต้องรับผิดไม่ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า การที่โจทก์เปลี่ยนแปลงตำแหน่งงานของนายชลทิศ จากพนักงานผู้ช่วยจัดโชว์สินค้าเป็นพนักงานขายสินค้าอันมิใช่ตำแหน่งที่แจ้งไว้แก่จำเลยขณะทำสัญญาค้ำประกันจะเป็นเหตุให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันหรือไม่ คดีนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยว่า สัญญาค้ำประกันระบุไว้ชัดแจ้งว่าจำเลยเข้าค้ำประกันการทำงานของนายชลทิศ ในตำแหน่งผู้ช่วยจัดโชว์สินค้าตามห้าง ซึ่งมีหน้าที่จัดโชว์ ทำความสะอาดผลิตภัณฑ์และดูแลผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัทจึงเข้าใจได้ว่าเป็นการค้ำประกันความเสียหายแก่โจทก์เฉพาะงานในตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น ตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการขายสินค้าและเก็บเงินค่าสินค้าแต่อย่างใด เมื่อโจทก์เปลี่ยนตำแหน่งและหน้าที่ของนายชลทิศ ให้นอกเหนือไปจากที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้ การที่นายชลทิศไปทำความเสียหายแก่โจทก์ในขณะที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิมจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ตามสัญญาค้ำประกัน ระบุหน้าที่ของนายชลทิศว่ามีหน้าที่จัดโชว์ ทำความสะอาดผลิตภันฑ์และดูแลสินค้าของโจทก์ ดังนั้น นายชลทิศจึงมีหน้าที่ในการรักษาทำความสะอาดรวมทั้งการดูแลสินค้าของโจทก์มิให้สูญหายหรือบุบสลายไม่ว่าทางใด นอกจากความเสียหายจากตัวสินค้าเอง จึงย่อมเป็นหน้าที่โดยตรงของนายชลทิศที่จะป้องกันมิให้บุคคลอื่นใดมาเอาสินค้าโจทก์ไป โดยโจทก์ไม่ได้ยินยอมด้วยและถือว่าอยู่ในกรอบหน้าที่ของนายชลทิศอยู่เช่นเดิม เพราะหน้าที่ของพนักงานขายสินค้าตำแหน่งใหม่นั้นยังคงมีหน้าที่ในการจำหน่ายและดูแลรักษาสินค้าเช่นเดิมไม่ว่าจะเรียกชื่อตำแหน่งงานอย่างใดก็ตาม นอกจากนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดว่า ความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันในมูลหนี้การจ้างแรงงานระงับสิ้นไปเนื่องจากเปลี่ยนตำแหน่ง จำเลยจึงยังต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาค้ำประกัน เห็นว่า จำเลยค้ำประกันนายชลทิศ ในขณะที่นายชลทิศมีตำแหน่งผู้ช่วยจัดโชว์สินค้าตามห้างซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าของโจทก์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเงินอันเนื่องมาจากการขายสินค้า ซึ่งตามสภาพงานจะต้องมีทั้งสินค้าใหม่ๆ เงินที่ขายสินค้าหมุนเวียนผ่านมือไป อันมีลักษณะการทำงานแตกต่างไปจากการช่วยจัดโชว์สินค้าอย่างสิ้นเชิง งานตำแหน่งพนักงานขายสินค้าจึงถือได้ว่าอยู่นอกเหนือเจตนาและความมุ่งหมายจะผูกพันตนของจำเลยตามสัญญาค้ำประกันในขณะเข้าทำสัญญาค้ำประกัน ดังนั้น การที่นายชลทิศได้กระทำความเสียหายแก่โจทก์ ขณะอยู่ในตำแหน่งพนักงานขายสินค้าของโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันต่อโจทก์ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน